ปตท.ใช้ non-oil สร้างรายได้ปั๊มแอลพีจี


กรุงเทพฯ 10
ม.ค.-ปตท.พร้อมรับเปิดเสรีค้าก๊าซแอลพีจี
โดยใช้หลักดูแลความปลอดภัยถังก๊าซเป็นสำคัญ
เร่งติดตั้ง Check Lock Valve เสริมความปลอดภัย ลั่นไม่ปิดปั๊มแอลพีจี 240 แห่ง
แต่ใช้ธุรกิจไม่ใช่น้ำมัน หรือ
non-oil เข้าเสริมดึงรายได้

       นายมุนินทร์
ไตรภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดพาณิชย์ บมจ.ปตท. กล่าวว่า
ถึงกรณีนโยบายกระทรวงพลังงานที่กำลังศึกษาเรื่องศูนย์ซ่อมกลางถังก๊าซแอลพีจีและการเปิดเสรีโรงบรรจุก๊าซให้ข้ามแบรนด์กันได้
ว่าปตท​.ในฐานะผู้มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดร้อยละ
48
พร้อมให้ความร่วมมือแต่ก็ขอดูหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด
ซึ่งหากบรรจุข้ามแบรนด์แล้วภาครัฐจะออกระเบียบควบคุมการดูแลถังของแต่ละแบรนด์ เหมือนกับที่เอกชนแต่ละรายคุมกันเองได้หรือไม่
โดยปัจจุบัน
ปตท.เน้นเรื่องความปลอดภัยถังก๊าซเป็นสำคัญ แต่ละปีใช้งบประมาณซ่อมแซมถัง
200 ล้านบาท เพื่อนซ่อมบำรุงถัง 2.5 ล้านใบ/ปี และหากรวมเรื่องการทำลายถังการผลิตถังใหม่ก็อยู่ที่
700-
800 ล้านบาท/ปี มีศูนย์ซ่อม 6 แห่งทั่วทุกภาค  มีโรงบรรจุ 176 แห่ง


        ปตท.ยังได้คิดค้นอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยในระหว่างบรรจุ
การใช้และการขนส่ง คือ อุปกรรณ์เช็คล็อควาล์ว
(Check Lock Valve )เพื่อแก้ปัญหาวาล์วของถังค้าง
และคลายตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการขนส่งจนเป็นเหตุให้ก๊าซฯรั่วไหล
ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเปลี่ยนมาตั้งแต่ปี2559
และคาดว่าจะสามารถเปลี่ยนวาล์วของถังเป็นระบบใหม่ได้ทั้งหมดภายใน
6 ปี จากปัจจุบันที่มีถัง LPG ของปตท.อยู่ราว 15 ล้านใบในตลาด และปตท.จะสั่งถัง
LPG ใหม่ประมาณ 5-6 แสนใบ/ปี
โดยส่วนหนึ่งเพื่อทดแทนถังเก่าที่ไม่ได้มาตรฐานราว
1 แสนใบ/ปี

           นายมุนินทร์
ระบุด้วยว่าการค้าขายแอลพีจีไม่ใช่ธุรกิจที่สร้างกำไรมากนัก
ปตท.มีกำไรประมาณร้อยละ
1
จากยอดขาย3 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยตลาด LPG ของประเทศซึ่งมีอยู่
3 ตลาด รวม 4,100 ล้านกิโลกรัม/ปี ซึ่งไม่รวมการใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
โดยเป็นตลาดภาคครัวเรือน ประมาณ
2,100 ล้านกิโลกรัม/ปี
ในส่วนนี้เป็นยอดขายของปตท.ราว
1,000 ล้านกิโลกรัม/ปี
คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ
48 ,ภาคขนส่ง
ประมาณ
1,400 ล้านกิโลกรัม/ปี ปตท.มีสัดส่วน 250 ล้านกิโลกรัม/ปี และภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 600 ล้านกิโลกรัม/ปี ในส่วนนี้เป็นของปตท.ราว 300-320 ล้านกิโลกรัม/ปี  ซึ่งปตท. คาดว่ายอดขายภาคครัวเรือนปีนี้จะเติบโตราวร้อยละ 1 ซึ่งเป็นการเติบโตเท่ากับตลาด , ภาคขนส่ง ของปตท. คาดว่าจะปรับตัวลงน้อยกว่าตลาด
ที่คาดว่าจะหดตัวลง ร้อยละ
10
 และภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะเติบโตเท่ากับตลาดที่คาดขยายตัวร้อยละ
3 ในปีนี้  
                    “รัฐบาลส่งเสริมตลาดค้าเสรีแอลพีจี แต่
ปตท.ยังมั่นใจว่าจะครองส่วนแบ่งที่ 1 ต่อไป ไม่เน้นการประชาสัมพันธ์
แต่เน้นเรื่องการรักษาความปลอดภัยบำรุงรักษาถังก๊าซ  ตลาดภาคขนส่งจะแข่งขันรุนแรง ในขณะที่ที่ความต้องการใช้ลดลง
ปตท.ไม่มีแผนปิดปั๊มแอลพีจี 240 แห่ง แต่จะช่วยให้ดีลเลอร์อยู่ได้  โดยปตท.เตรียมนำธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน
(
non oil) เข้ามาเสริม ได้แก่ ร้านกาแฟอเมซอน ร้าน 7-11
ซึ่งขณะนี้มีแล้วใน 30 สถานี“นายมุนินทร์ กล่าว

 

                    นายมุนินทร์
กล่าวด้วยว่า ปตท.กำลังมีแผนจะจำหน่ายก๊าซถังคอมโพสิต 11 กก. ในพื้นที่เขตเมือง
เช่น กรุงเทพฯและปริมณฑล แต่เนื่องจากต้นทุนสูงค่ามัดจำถังอาจจะตกราว 2,000
บาท/ถัง ซึ่งคาดว่าจะประกาศแผนที่ชัดเจนในปีนี้ โดยที่ผ่านมา ปตท.ได้เปลี่ยนถังก๊าซ
LPG ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากถังเหล็ก เป็นถังก๊าซคอมโพสิต ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรง เปลี่ยนถังไปแล้วกว่า
5 หมื่นใบ จาก 6 หมื่นใบ
หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ
50 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีถังทั้งสิ้น 1.2 แสนใบ สำนักข่าวไทย


 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ลุ้นพรุ่งนี้ ศาลปกครองนัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” คดีทุจริตจำนำข้าว

ศาลปกครอง 21 พ.ค.-ลุ้นบ่ายพรุ่งนี้ ศาลปกครองสูงสุด นัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” ต้องชดใช้เงิน 35,717 ล้านบาท คดีทุจริตจำนำข้าวหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุด นัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่า กระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด […]

ราบรื่น! วิปสภาเคาะเวลาถก “งบฯ 69” 4 วัน 41 ชั่วโมง

รัฐสภา 21 พ.ค.- วิป 3 ฝ่าย หารือราบรื่น! ตกลงเวลาถก “งบฯ 69” 4 วัน 41 ชั่วโมง ให้ฝ่ายค้าน 20 ชม. ชำแหละรายละเอียด ด้าน “มนพร” มั่นใจ ภท.​ไม่แตกแถวโหวตงบฯ 69 บอกคุยหัวหน้าพรรคแล้ว ยืนยันไม่มีสอดไส้ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาฯ (วิปสภาฯ) โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ร่วมกับตัวแทนของวิปฝ่ายรัฐบาล อาทิ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานวิปรัฐบาล นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะตัวแทนรั น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย และวิปฝ่ายค้าน อาทิ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล ประธานวิปฝ่ายค้าา นายณัฐวุฒิ […]

นอนเรือนจำคืนแรก “เสก โลโซ” ปรับตัวได้ คุยปกติ

กรมราชทัณฑ์ 21 พ.ค. – คืนแรกนอนเรือนจำพิเศษมีนบุรี “เสก โลโซ“ ปรับตัวได้ คุยปกติ หลับๆ ตื่นๆ บ้าง กักโรคโควิดก่อนแยกแดน ภายหลังศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 12 เดือน 20 วัน นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ศิลปินดัง ในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่คุมตัวนายเสกสรรค์ เข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เรือนจำพิเศษมีนบุรี ได้รับตัวนายเสกสรรค์ เข้ากระบวนการรับตัว คัดกรองแรกรับตามมาตรการกรมราชทัณฑ์ และส่งแยกกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ในพื้นที่ผู้ต้องขังรับใหม่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากการตรวจสุขภาพนายเสกสรรค์ พบว่าทั่วไปปกติ แต่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระหว่างกักโรค เจ้าตัวมีการพูดคุยสนทนา และให้ความร่วมมือกับราชทัณฑ์เป็นอย่างดี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมยวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก […]