กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – กกร.คาดเศรษฐกิจปีนี้โตร้อยละ 3.8-4.5 ยอมรับเงินบาทแข็งค่าส่งผลกระทบต่อการส่งออก
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุม กกร.เห็นว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2560 น่าจะขยายตัวไม่ตํ่ากว่าร้อยละ 4 จากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังสามารถรักษาแรงส่งการขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 2560 เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวโน้มเข้าสูงกรอบบนของประมาณการที่ร้อยละ 3.7-4.0 โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9 ด้านการส่งออกขยายตัวร้อยละ 10 เนื่องจากฐานการส่งออกปี 2559 ต่ำ
สําหรับปี 2561 นั้น กกร. ประเมินว่าเศรษฐกิจอาจขยายตัวใกล้เคียงปี 2560 ที่ร้อยละ 3.8-4.5 โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการขยายตัวของการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.5-6.0 ขยายตัวลดลงเมื่อเทียบปี 2560 เนื่องจากผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าและฐานการส่งออกที่สูงในปี 2560 แต่เศรษฐกิจปี 2561 ยังมีการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่การขยายตัวอย่างทั่วถึงยังเป็นประเด็นที่ท้าทาย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามโดยเฉพาะการดําเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐต่อคู่ค้าต่างๆ ในจังหวะที่สหรัฐจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมเดือนพฤศจิกายน 2561 ประเด็นความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งคาบสมุทรเกาหลีและภูมิภาคตะวันออกกลาง ตลอดจนความผันผวนของทิศทางค่าเงิน ซึ่ง กกร.เป็นห่วงว่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทย จึงจะมีการหารือเพื่อเสนอมาตรการต่อทางการต้นสัปดาห์หน้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 0.7 ส่วนปี 2561 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 1.1-1.6
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนที่แล้วคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล สามารถนําค่าใช้จ่ายจากการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดเมืองรองได้เป็นจํานวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายและบุคคลธรรมดาลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2561 กกร.ได้เชิญชวนสมาชิกให้การสนับสนุนมาตรการดังกล่าว เพื่อจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวท้องถิ่นเพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรองและชุมชนและเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่เศรษฐกิจฐานรากเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมลํ้าทางเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยมีสมาชิกประมาณ 100,000 ราย คาดว่าผู้ประกอบการเหล่านี้จะออกไปประชุมอบรม สัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด ก็จะช่วยสร้างรายได้ให้กับแหล่งท่องเที่ยวรองได้ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจออกไปอบรมและสัมมนาในเมืองรองด้วยเช่นกันเนื่องจากมีเม็ดเงินจำนวนไม่น้อย คาดว่าจะสามารถช่วยแหล่งท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัดได้อีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย