ครม. มอบหมาย ธ.ก.ส. ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

ทำเนียบฯ 9 ม.ค.- ครม.มอบหมายให้ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผ่าน 3 มาตรการ   9 โครงการ  


ผู้สื่อข่าวรายว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือรายได้น้อยในส่วนของ ธ.ก.ส.   เตรียมวงเงินรองรับ 95,000 ล้านบาท  ผ่าน 3 มาตรการ 9 โครงการ ประกอบด้วย  มาตรการที่ 1 การพัฒนาตนเอง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ แนวทางที่ 1. โครงการให้ความรู้ทางการเงินแก่เกษตรกรลูกค้าผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 60  กลุ่มเป้าหมาย เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย 1 ล้านราย   เพื่อให้วิเคราะห์ต้นทุนการผลิต การลดต้นทุนการผลิต และจัดทำแผนการผลิต แผนการตลาด และแผนการเงิน  โดย ธ.ก.ส. จัดทำสมุดความดี 1 เล่ม  เป็นเงิน 16 ล้านบาท    2. โครงการเงินฝากกองทุนทวีสุข และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)  ส่งเสริมการออมเมื่อเข้าสู่วัยชราสร้างภูมิคุ้มกัน ในวัยเกษียณ กลุ่มเป้าหมย  90,000 ราย   ให้เปิดบัญชีเงินฝากได้เพียงคนละ 1 บัญชี เท่านั้น  ใช้เงินเปิดบัญชีครั้งแรกต้องครบเต็มจำนวนปีละ 600 บาท  1,200 บาท 6,000 บาท และ 12,000 บาท จากนั้นให้ฝากเงินต่อเนื่องทุกปี สามารถฝากเงินล่วงหน้าเต็มจำนวนได้ไม่เกิน 1 ปี   จากนั้นเมื่อออมปีถัดไปสามารถทยอยฝากเป็นรายเดือนได้จนครบเต็ม ในระยะเวลา 1 ปี  จึงจะได้รับสิทธิ์ในความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ และได้รับสวัสดิการเพิ่มขึ้นเป็นแบบขั้นบันไดตามอายุของการออมของลูกค้า เช่น เงินรับขวัญบุตรแรกเกิด เงินช่วยเหลืองานศพ เงินชดเชยค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

มาตรการที่ 2 การพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้   2 โครงการ  ได้แก่  โครงการสินเชื่อชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อย (XYZ)   เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการพัฒนาอาชี  ระหว่างผู้มีรายได้น้อย หรือเกษตรกรทั่วไปกับกลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และ SMAEs ในพื้นที่ ทั่วประเทศ 77 จังหวัด     


เพื่อจ่ายเงินกู้ให้แก่กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร และ SMAEs  เพื่อจ้างผู้มีรายได้น้อย 384,000 ราย ผลิตสินค้าเกษตรที่ตรงกับความต้องการของตลาดผ่านระบบการจ้างผลิตแบบเกษตรพันธะสัญญา (Contract Farming) และแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้มีรายได้น้อย  วงเงินสินเชื่อ 45,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ปีที่ 1 วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท จ านวน 100,000 ราย  ปีที่ 2 วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท จำนวน 200,000 ราย  วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท จำนวน 384,000 ราย  คิดดอกเบี้ยตามโครงการในอัตราร้อยละ 3.51 ต่อปี คิดจากผู้กู้ร้อยละ 0.01 ต่อปี  รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.50 ต่อปี กำหนดชำระคืนไม่เกิน 12 เดือนนับแต่วันกู้ โดยกำหนดวงเงินกู้และหลักประกันเพิ่มเติมและให้ใช้เป็นกรณีพิเศษสำหรับโครงการนี้                

โดย ธ.ก.ส.ขอให้รัฐบาลช่วยรับภาระ กรณีเกิดความเสียหายจาก NPLs ตามโครงการนี้  และไม่นำมาคำนวณรวมเป็น NPLs เพื่อประเมินผล ด้วยการแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA)  วงเงินงบประมาณที่ใช้ในการด าเนินงานโครงการรวมทั้งสิ้น  4,875 ล้านบาท  รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 3.50 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันกู้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,725 ล้านบาท  โดยให้ ธ.ก.ส.เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ าปีตามค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจริง   และขอสนับสนุนค่าใช้จ่ายฝึกอบรม จากงบประจำปีจากรัฐบาล ปีละ 50 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมทั้งหมด 150 ล้านบาท  ดำเนินการตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 – 31 ธันวาคม 2566  ระยะเวลาการจ่ายเงินกู้  ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 – 31 ธันวาคม 2563 

โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างอาชีพเป็นการยกระดับรายได้ก่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนในอาชีพให้กับ ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ  กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 400,000 ราย วงเงินสินเชื่อจำนวน  20,000 ล้านบาท  ให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท  คิดดอกเบี้ยเงินกู้ใน 6 เดือนแรก  ในอัตราร้อยละ 0 ต่อปี และตั้งแต่เดือนที่ 7 เป็นต้นไป คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี) ลดหย่อนหลักประกันเงินกู้ในกรณีใช้บุคคลค้ำประกันหรือบุคคลรับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ให้กู้ได้ไม่เกินรายละ 50,000 บาท 


มาตรการที่ 3 ลดภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงิน และลดภาระหนี้ในระบบ  กลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีหนี้เป็นภาระหนัก  535,137 ราย วงเงิน 126,798 ล้านบาท   โดยการพักชำระต้นเงิน 2 ปี ในระหว่างพักช าระหนี้คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี)  ให้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยนำต้นเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 มาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR  ชำระคืนไม่เกิน 7 ปี ปลอดการชำระต้นเงินไม่เกิน 2 ปีแรก  ส่วนต้นเงินอีกไม่เกินร้อยละ 50 ให้น ามาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ และก าหนดช าระคืนตามแหล่งที่มาของรายได้  สัญญาพักชำระหนี้หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ช าระต้นเงินร้อยละ 50 แรกได้เสร็จสิ้นภายใน 7 ปี ให้ลดดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ครึ่งหนึ่ง     

ส่วนกรณีลูกค้ารายย่อยที่มีหนี้ไม่เกิน 300,000 บาท จ านวน 383,157 ราย (คิดเป็นร้อยละ 71  ของจำนวนลูกค้าที่มีหนี้เป็นภาระหนักทั้งหมด มีต้นเงินคงเป็นหนี้  52,605 ล้านบาท โดยให้ลูกค้าพักการช าระดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 ปี และขอให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.แทนผู้มีรายได้น้อยในอัตราร้อยละ 3.00 ต่อปี  ธ.ก.ส. รับภาระดอกเบี้ยแทนผู้มีรายได้น้อยประมาณร้อยละ 4.00 ต่อปี  1.4 วงเงินงบประมาณ  ขอให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ ธ.ก.ส.แทนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้ไม่เกิน 300,000 บาท  ใน 2 ปีแรก  ทั้งกลุ่มที่พักช าระหนี้และกลุ่มที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้  ในอัตราร้อยละ 3.00 ต่อปี ของต้นเงินกู้ รวม 52,605 ล้านบาท กรอบวงเงินชดเชย 2 ปี  ปีละ 1,579 ล้านบาท  รวมจ านวน 3,158 ล้านบาท  โดยขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจ าปี  และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยแทนผู้มีรายได้น้อยประมาณ  3,847 ล้านบาท  โดยแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account: PSA) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวแม่อายกังวลพบสารหนูในร่างกาย สธ.ยันไม่เกินมาตรฐาน

เชียงใหม่ 8 ก.ค. – หลังชาวบ้านริมลำน้ำกก บริเวณชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เครียดและกังวลกับปัญหาสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกก ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการใช้น้ำมานานกว่า 3 เดือน ตอนนี้ชาวบ้านยิ่งตื่นกลัวมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวการสุ่มตรวจปัสสาวะเด็กในชุมชนอย่างน้อย 2 คน พบสารหนูในร่างกาย ขณะที่สาธารณสุขเชียงใหม่ ยอมรับการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง 10 ราย พบสารหนู 9 ราย แต่ไม่เกินมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]