แถลงสรุปยอดปีใหม่ ทำผิดถูกคุมประพฤติ 6,667 คดี

กรมคุมประพฤติ 8 ม.ค.-อธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงสรุปยอดช่วงปีใหม่  มีผู้กระทำผิดถูกคุมประพฤติ 6,677 คดี เมาแล้วขับนำโด่งร้อยละ 90


นายประสาร  มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม แถลงสรุปยอดคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ พ.ร.บ.จราจรทางบก ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 โดยในช่วง 7วันอันตราย (28 ธ.ค.2560- 2 ม.ค. 2561) เกิดอุบัติเหตุ 3,841 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 423 ราย บาดเจ็บ 4,005 ราย ซึ่งมีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ 119 แห่ง รวมทั้งสิ้น 6,677 คดี แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุราจำนวน 6,030 คดี คิดเป็นร้อยละ 90.31 ,ขับเสพและอื่นๆ จำนวน 602 คดี คิดเป็นร้อยละ 9.01 และขับรถโดยประมาท(ตามประมวลกฎหมายอาญา) จำนวน 45 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.67 


จังหวัดที่มีสถิติสูงสุด 3 อันดับได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ 448 คดี,กรุงเทพฯ 354 คดี และมหาสารคาม 269 คดี นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ถูกคุมประพฤติในคดีขับรถขณะเมาสุราและขับขี่โดยประมาทที่พ้นโทษ ในช่วงปี 2558-2560 กลับมาทำผิดซ้ำ 99 ราย หรือร้อยละ 1.5


นายประสาร  กล่าวอีกว่า สำหรับตัวเลขรวมปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยหลังจากนี้จะต้องไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมาทบทวนมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อหวังว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงว่าตัวเลขผู้กระทำผิดจะลดลง อย่างไรก็ตามเมื่อมาวิเคราะห์ข้อมูล แล้วมองในมุมกลับ พบว่า ตัวเลขที่เกิดอาจไม่ใช่เป็นตัวกำหนดความสำเร็จของการรณรงค์ แต่มองเห็นถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำผิดโดยเฉพาะเมาแล้วขับ ที่สามารถจับกุมได้มากขึ้น ในส่วนของกรมคุมประพฤติถือเป็นหน่วยงานปลายทาง แต่หน่วยงานต้นทางจะต้องไปหารือ หามาตรการรณรงค์สร้างการตระหนักรู้ นวมถึงจะต้องมีการเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่ หากผู้กระทำผิดมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอาจไม่ต้องรอลงอาญา หรือคุมประพฤติ ให้จับเข้าห้องขังเลยหรือไม่  ซึ่งจะต้องรอการหารือร่วมอีกครั้ง

สำหรับเงื่อนไขที่ศาลสั่งคุมประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนใหญ่ระยะ เวลาคุมประพฤติอยู่ที่ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล โดยกำหนดให้ทำงานบริการสังคม เฉลี่ยอยู่ที่ 21 ชั่วโมง โดยต่ำสุดอยู่ที่ 12 ชั่วโมง และสูงสุด 72 ชั่วโมงและให้กำหนดมารายงานตัว 4 ครั้ง ที่ผ่านมาการทำงานบริการสังคม จะมีเรื่องทำความสะอาดสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะวัด โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการต่างๆ ไปเข้าห้องดับจิต หรือไปบริจาคเลือด แต่ปีนี้จะเน้นหนักให้ไปดูแลช่วยเหลือเหยื่อเมาแล้วขับที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงเพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ เพิ่มจิตสำนึกให้แก่ผู้กระทำผิดมากขึ้น ส่วนกลุ่มที่กระทำผิดซ้ำจะนำไปวิเคราะห์ข้อมูล ว่าเกิดจากอะไร หากเกิดจากติดสุราซ้ำซาก จะประสานข้อมูลกรมสุขภาพจิตให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น