กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – สภาผู้ส่งออกฯ ยกทีมพบ ธปท.จี้คุมบาทแข็งหลังทำกำไรหด เตรียมประเมินผลกระทบ 9 ม.ค.นี้
นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศ หรือสภาผู้ส่งออกฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2561 เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ กระทบกำไรผู้ส่งออกในรูปเงินบาทลดลง ซึ่งสภาผู้ส่งออกฯ จะหารือธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเอกชนมองว่าอาจเป็นผลมาจากเงินร้อนที่เข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรจำนวนมากในช่วงนี้ จึงอยากให้ ธปท.ใช้มาตรการดูแลค่าเงินบาทที่มีอยู่ให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบมากกว่านี้ เพราะหากเงินบาทแข็งมากกว่านี้อาจจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม มองว่าค่าเงินบาทที่เหมาะสมสำหรับผู้ส่งออกน่าจะอยู่ประมาณ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบันแข็งค่าเกินไปอยู่ที่ 32.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และหากเทียบกับเงินสกุลภูมิภาคเงินบาทไทยแข็งค่ามากกว่าทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งวันพรุ่งนี้ ( 9 ม.ค.) สภาผู้ส่งออกฯ จะประเมินผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทในการประชุมอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย