ก.พลังงานชี้แจงส่งเสริมบทบาทการแข่งขัน สร้างประโยชน์ต่อประชาชน

กรุงเทพฯ 5 ม.ค. – สร.ปตท.-กฟผ.เป็นงง เอกสารแจกใน ครม. 7 พ.ย. 60 กฟผ.เตรียมจัดสัมมนาใหญ่  17 ม.ค.รับมือการเปลี่ยนแปลง  ด้าน “มนูญ” ยืนยันไม่ใช่ข้อเสนอ คก.ปฎิรูปด้านพลังงาน ด้าน ก.พลังงานทำเอกสารแจงพีเอ็มดียู ทำนโยบายส่งเสริมการแข่งขันภาคพลังงานอยู่แล้ว สร้างประโยชน์ต่อประชาชน


นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า ข้อเสนอการปฏิรูปด้านพลังงานมีเรื่องการบริหารที่จะส่งเสริมการแข่งขันด้านธุรกิจพลังงาน โดยแยกระบบสายส่งออกจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และระบบท่อก๊าซธรรมชาติออกจาก บมจ.ปตท. เพื่อให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้ โดยรูปแบบจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำกับดูแล แต่คณะกรรมการปฎิรูปไม่ได้มีข้อเสนอไม่ให้ กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าใหม่แต่อย่างใด 

ทั้งนี้ กรณีคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 มีการแจกเอกสารเกี่ยวกับพลังงานในที่ประชุม โดยมีเนื้อหาลดบทบาท บมจ.ปตท. และ กฟผ. โดยเฉพาะ กฟผ.ที่ระบุให้แยกสายส่งออกจาก กฟผ.และให้เอกชนเข้ามามีบทบาทการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น รวมทั้งกำหนดให้ กกพ.ไม่ควรมาจาก 3 การไฟฟ้า และ บมจ.ปตท.นั้น 


 นายมนูญ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อเสนอของคณะกรรมการปฎิรูปฯ แต่อย่างใด โดยในส่วนตัวเห็นว่า การทำงานของคณะกรรมการ กกพ.ทำตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ดังนั้น หาก กพช.กำหนดนโยบายที่อาจจะเป็น ประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ ต่อรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน กกพ.ก็ต้องดำเนินการตาม โดยกรรมการ กกพ.แม้เกษียณจะมาจาก รัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ก็ต้องดำเนินการตามนโยบาย กพช.เป็นหลัก 

“การแยกท่อก๊าซฯ และสายส่งออกมารูปแบบอาจเป็นแยกบัญชี หรือมีองค์กรใหม่ขึ้นมาดูแล เพื่อให้เกิดการแข่งขัน ลดการผูกขาดแบบธรรมชาติ เปิดทางให้บุคคลที่ 3 มาใช้ โดยในส่วนของ กฟผ.จะเป็นหน่วยงานโอเปอเรเตอร์หรือหน่วยงานด้านการทำงานเท่านั้น โดยทางคณะกรรมการฯ ไม่ได้เสนอให้ลดบทบาทการทำงานด้านอื่น ๆ ของ กฟผ.และ ปตท.แต่อย่างใด” นายมนูญ กล่าว 

นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคงจะต้องเช็คว่ามีเรื่องนี้เข้า ครม.จริงหรือไม่ มีเหตุผลที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้เสนอ เพราะขณะนี้การผลิตไฟฟ้าและสายส่ง กฟผ.เป็นผู้ดูแลและเมื่อเอกชนผลิตจะเป็นระบบประมูลขายผ่านระบบ กฟผ. ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะแปรรูป กฟผ.เมื่อไม่สำเร็จก็พยายามจะมาอ้างเรื่องต้นทุนการผลิตแล้วให้เอกชนเข้ามามีบทบาท แยกสายส่ง กฟผ.ออก ซึ่งตลอดเวลา กฟผ.ทำหน้าที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าให้กับรัฐมาอย่างมั่นคง จึงอยากให้รัฐตอบมาตรง ๆ ว่าจะยังคงให้มี กฟผ.หรือไม่ และการอ้างว่าผูกขาดก็ควรดูว่าต่างประเทศเองก็มีการกำหนดสัดส่วนที่จะไม่ให้เอกชนผูกขาดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม  กฟผ.พร้อมปรับตัวตามเทคโนโลยีใหม่ ด้านพลังงานทดแทนที่มีบทบาทมากขึ้น โดยว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ปรับโครงสร้างกำลังคนที่มีอยู่ 22,000 คนทั่วประเทศว่าเพื่อให้สอดรับกับอนาคต


นายศิริชัย กล่าวด้วยว่า วันที่ 17 มกราคม 2561 เพื่อการเตรียมพร้อม กฟผ.จะมีการจัดเวทีสัมมนาภายในเรื่อง ฝ่าวิกฤติกิจการไฟฟ้า กฟผ.จะก้าวข้ามอย่างไร โดยจะเชิญอดีตผู้ว่าฯ กฟผ. ได้แก่ 1.นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์  2.นายไกรสีห์ กรรณสูต และ 3. นายกรศิษฎ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าฯ กฟผ.คนปัจจุบัน  ที่จะเป็นเวทีสำคัญที่จะชี้ถึงแนวทางการปรับบทบาทของ กฟผ. เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป

น.ส.อัปสร กฤษณะสมิต ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ สร.ปตท. กล่าวว่า ตามเอกสารที่ปรากฎใน ครม.ทำให้ สร.ปตท.รู้สึกแปลกใจกับข้อมูล เพราะทั้ง ปตท.และ กฟผ.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐ ซึ่งไม่ว่าจะมีผลกำไรเกิดขึ้นผลประโยชน์ก็จะตกกับประเทศ ซึ่ง สร.ปตท.ไม่ได้เป็นห่วงว่าการเปิดเสรีจะทำให้ ปตท.ถูกลดบทบาทลง  แต่นโยบายดังกล่าวทำแล้วประเทศชาติจะได้ประโยชน์จริงหรือไม่ โดยในส่วนของ ปตท.หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วได้วางรากฐานการสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กรและทำธุรกิจที่หลายหลายมากขึ้น สร้างรายได้ที่สูงแก่ภาครัฐ มีการปรับตัวมาตลอด ขณะที่มีพนักงานประมาณ 4,000 คน ดังนั้น หากจะมีการลดบทบาทลงบ้างก็คงไม่มีผลกระทบมากนัก  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเอกสารที่แจกใน ครม.วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เป็นเอกสารที่มาจากที่ปรึกษาพิเศษ ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็นมติ ครม.และทางกระทรวงพลังงานได้ทำหนังสือชี้แจงผ่านสำนักบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พีเอ็มดียู) ที่มีนายอําพน กิตติอําพน เป็นผู้อำนวยการ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรายงานเข้าสู่ ครม.แต่อย่างใด โดยกระทรวงพลังงานได้ชี้แจงถึงการทำงานที่ดูแลถึงความมั่นคงด้านพลังงานเป็นหลัก พร้อม ๆ กับการส่งเสริมพลังงานทดแทน และการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนที่มีส่วนแบ่งด้านพลังงานทำให้เกิดการแข่งขันเป็นประโยชน์ต่อภาคประชาชน  มีการเปิดให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้คลังก๊าซฯ และท่อก๊าซ ปตท. ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งกระบี่และเทพานั้น แม้จะให้ กฟผ.เป็นผู้ก่อสร้าง แต่ทั้ง 2 โรงไฟฟ้าก็ยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ในการก่อสร้างแต่อย่างใด จึงยังไม่ถือว่าเป็นภาระต่อค่าไฟฟ้าของภาคประชาชน 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังจากนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการ กฟผ. เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560  ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการ กฟผ.เดือน ประมาณปลายเดือนมกราคมนี้จะมีการเลือกผู้รักษาการตำแหน่งประธานฯ  จากคณะกรรมการ 9 คนที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะเป็นนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน โดยจะมีการแต่งตั้งประธานคนใหม่ก็ต่อเมื่อ ครม.มีการแต่งตั้งกรรมการ กฟผ.แทนนายอารีพงศ์ที่ลาออกไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้ คดีมีความเสียหายอย่างใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]

เตรียมฝากขัง “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พรุ่งนี้ ค้านประกันตัว

นครปฐม 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ประกอบด้วย ในวัดไร่ขิง 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง 1 จุด เพื่อขยายผลค้นหาพยานหลักฐานในคดีที่พระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์ พื้นที่เป้าหมายสำคัญจุดแรกคือ กุฏิของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายค้น มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายและนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ รวมถึงเอกสารรายรับ-รายจ่าย 10 ลัง เกือบ […]

นายกฯ เยี่ยมคารวะ ปธน.เวียดนาม ยกระดับความสัมพันธ์

เวียดนาม 16 พ.ค.- นายกรัฐมนตรี เยี่ยมคารวะประธานาธิบดีเวียดนาม ประกาศยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน ย้ำ รักษาแนวทางการหารืออย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนความร่วมมือ ระดับทวิภาคีและพหุภาคี วันนี้ (16 พฤษภาคม 2568) เวลา 15.00 น. ณ ห้องรับรองพิเศษ ทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเลือง เกื่อง (H.E. Mr. Luong Cuong) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างสร้างสรรค์ในหลากหลายประเด็น พร้อมแสดงเจตจำนงร่วมกันในการยกระดับความร่วมมือทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันในฐานะประเทศหุ้นส่วนที่มีบทบาทสำคัญต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเวียดนาม ต่างยินดีต่อความสำเร็จของไทยและเวียดนาม ในการประกาศยกระดับความสัมพันธ์สู่ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” (Comprehensive Strategic Partnership) ถือเป็นพัฒนาการสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างกัน และยืนยันเจตนารมณ์ที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกด้านให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พร้อมต่างกล่าวชื่นชมความใกล้ชิดของประชาชนทั้งสองประเทศที่เป็นพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการเพิ่มพูนความไว้เนื้อเชื่อใจและการติดต่อระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะระหว่างกระทรวงกลาโหมและกองทัพของทั้งสองประเทศ พร้อมสนับสนุนแนวทางจัดตั้งกลไกคณะกรรมการความร่วมมือระดับสูงด้านการทหาร (High-Level Committee: HLC) เพื่อเป็นเวทีขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือในด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ […]