ก.พลังงานชี้แจงส่งเสริมบทบาทการแข่งขัน สร้างประโยชน์ต่อประชาชน

กรุงเทพฯ 5 ม.ค. – สร.ปตท.-กฟผ.เป็นงง เอกสารแจกใน ครม. 7 พ.ย. 60 กฟผ.เตรียมจัดสัมมนาใหญ่  17 ม.ค.รับมือการเปลี่ยนแปลง  ด้าน “มนูญ” ยืนยันไม่ใช่ข้อเสนอ คก.ปฎิรูปด้านพลังงาน ด้าน ก.พลังงานทำเอกสารแจงพีเอ็มดียู ทำนโยบายส่งเสริมการแข่งขันภาคพลังงานอยู่แล้ว สร้างประโยชน์ต่อประชาชน


นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า ข้อเสนอการปฏิรูปด้านพลังงานมีเรื่องการบริหารที่จะส่งเสริมการแข่งขันด้านธุรกิจพลังงาน โดยแยกระบบสายส่งออกจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และระบบท่อก๊าซธรรมชาติออกจาก บมจ.ปตท. เพื่อให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้ โดยรูปแบบจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำกับดูแล แต่คณะกรรมการปฎิรูปไม่ได้มีข้อเสนอไม่ให้ กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าใหม่แต่อย่างใด 

ทั้งนี้ กรณีคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 มีการแจกเอกสารเกี่ยวกับพลังงานในที่ประชุม โดยมีเนื้อหาลดบทบาท บมจ.ปตท. และ กฟผ. โดยเฉพาะ กฟผ.ที่ระบุให้แยกสายส่งออกจาก กฟผ.และให้เอกชนเข้ามามีบทบาทการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น รวมทั้งกำหนดให้ กกพ.ไม่ควรมาจาก 3 การไฟฟ้า และ บมจ.ปตท.นั้น 


 นายมนูญ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อเสนอของคณะกรรมการปฎิรูปฯ แต่อย่างใด โดยในส่วนตัวเห็นว่า การทำงานของคณะกรรมการ กกพ.ทำตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ดังนั้น หาก กพช.กำหนดนโยบายที่อาจจะเป็น ประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ ต่อรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน กกพ.ก็ต้องดำเนินการตาม โดยกรรมการ กกพ.แม้เกษียณจะมาจาก รัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ก็ต้องดำเนินการตามนโยบาย กพช.เป็นหลัก 

“การแยกท่อก๊าซฯ และสายส่งออกมารูปแบบอาจเป็นแยกบัญชี หรือมีองค์กรใหม่ขึ้นมาดูแล เพื่อให้เกิดการแข่งขัน ลดการผูกขาดแบบธรรมชาติ เปิดทางให้บุคคลที่ 3 มาใช้ โดยในส่วนของ กฟผ.จะเป็นหน่วยงานโอเปอเรเตอร์หรือหน่วยงานด้านการทำงานเท่านั้น โดยทางคณะกรรมการฯ ไม่ได้เสนอให้ลดบทบาทการทำงานด้านอื่น ๆ ของ กฟผ.และ ปตท.แต่อย่างใด” นายมนูญ กล่าว 

นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคงจะต้องเช็คว่ามีเรื่องนี้เข้า ครม.จริงหรือไม่ มีเหตุผลที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้เสนอ เพราะขณะนี้การผลิตไฟฟ้าและสายส่ง กฟผ.เป็นผู้ดูแลและเมื่อเอกชนผลิตจะเป็นระบบประมูลขายผ่านระบบ กฟผ. ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะแปรรูป กฟผ.เมื่อไม่สำเร็จก็พยายามจะมาอ้างเรื่องต้นทุนการผลิตแล้วให้เอกชนเข้ามามีบทบาท แยกสายส่ง กฟผ.ออก ซึ่งตลอดเวลา กฟผ.ทำหน้าที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าให้กับรัฐมาอย่างมั่นคง จึงอยากให้รัฐตอบมาตรง ๆ ว่าจะยังคงให้มี กฟผ.หรือไม่ และการอ้างว่าผูกขาดก็ควรดูว่าต่างประเทศเองก็มีการกำหนดสัดส่วนที่จะไม่ให้เอกชนผูกขาดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม  กฟผ.พร้อมปรับตัวตามเทคโนโลยีใหม่ ด้านพลังงานทดแทนที่มีบทบาทมากขึ้น โดยว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ปรับโครงสร้างกำลังคนที่มีอยู่ 22,000 คนทั่วประเทศว่าเพื่อให้สอดรับกับอนาคต


นายศิริชัย กล่าวด้วยว่า วันที่ 17 มกราคม 2561 เพื่อการเตรียมพร้อม กฟผ.จะมีการจัดเวทีสัมมนาภายในเรื่อง ฝ่าวิกฤติกิจการไฟฟ้า กฟผ.จะก้าวข้ามอย่างไร โดยจะเชิญอดีตผู้ว่าฯ กฟผ. ได้แก่ 1.นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์  2.นายไกรสีห์ กรรณสูต และ 3. นายกรศิษฎ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าฯ กฟผ.คนปัจจุบัน  ที่จะเป็นเวทีสำคัญที่จะชี้ถึงแนวทางการปรับบทบาทของ กฟผ. เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป

น.ส.อัปสร กฤษณะสมิต ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ สร.ปตท. กล่าวว่า ตามเอกสารที่ปรากฎใน ครม.ทำให้ สร.ปตท.รู้สึกแปลกใจกับข้อมูล เพราะทั้ง ปตท.และ กฟผ.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐ ซึ่งไม่ว่าจะมีผลกำไรเกิดขึ้นผลประโยชน์ก็จะตกกับประเทศ ซึ่ง สร.ปตท.ไม่ได้เป็นห่วงว่าการเปิดเสรีจะทำให้ ปตท.ถูกลดบทบาทลง  แต่นโยบายดังกล่าวทำแล้วประเทศชาติจะได้ประโยชน์จริงหรือไม่ โดยในส่วนของ ปตท.หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วได้วางรากฐานการสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กรและทำธุรกิจที่หลายหลายมากขึ้น สร้างรายได้ที่สูงแก่ภาครัฐ มีการปรับตัวมาตลอด ขณะที่มีพนักงานประมาณ 4,000 คน ดังนั้น หากจะมีการลดบทบาทลงบ้างก็คงไม่มีผลกระทบมากนัก  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเอกสารที่แจกใน ครม.วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เป็นเอกสารที่มาจากที่ปรึกษาพิเศษ ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็นมติ ครม.และทางกระทรวงพลังงานได้ทำหนังสือชี้แจงผ่านสำนักบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พีเอ็มดียู) ที่มีนายอําพน กิตติอําพน เป็นผู้อำนวยการ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรายงานเข้าสู่ ครม.แต่อย่างใด โดยกระทรวงพลังงานได้ชี้แจงถึงการทำงานที่ดูแลถึงความมั่นคงด้านพลังงานเป็นหลัก พร้อม ๆ กับการส่งเสริมพลังงานทดแทน และการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนที่มีส่วนแบ่งด้านพลังงานทำให้เกิดการแข่งขันเป็นประโยชน์ต่อภาคประชาชน  มีการเปิดให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้คลังก๊าซฯ และท่อก๊าซ ปตท. ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งกระบี่และเทพานั้น แม้จะให้ กฟผ.เป็นผู้ก่อสร้าง แต่ทั้ง 2 โรงไฟฟ้าก็ยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ในการก่อสร้างแต่อย่างใด จึงยังไม่ถือว่าเป็นภาระต่อค่าไฟฟ้าของภาคประชาชน 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังจากนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการ กฟผ. เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560  ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการ กฟผ.เดือน ประมาณปลายเดือนมกราคมนี้จะมีการเลือกผู้รักษาการตำแหน่งประธานฯ  จากคณะกรรมการ 9 คนที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะเป็นนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน โดยจะมีการแต่งตั้งประธานคนใหม่ก็ต่อเมื่อ ครม.มีการแต่งตั้งกรรมการ กฟผ.แทนนายอารีพงศ์ที่ลาออกไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย