สีสันเศรษฐกิจ : ผึ้งช่วยแก้ปัญหาคนกับช้างที่แอฟริกาใต้

แอฟริกาใต้ 4 ม.ค. – ปัญหากระทบกระทั่งระหว่างคนกับช้างป่าที่บุกเข้ามาทำลายพืชผลการเกษตร ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไทย แต่ในประเทศแอฟริกาใต้ก็เกิดกรณีแบบเดียวกัน ไปดูแนวทางแก้ปัญหาว่า จะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร


โครงการ “รั้วผึ้งกันช้าง” มีการทดลองทำได้ผลในไทยเช่นกัน ที่อำเภอแก่งหางแมว จ.จันทบุรี ซึ่งเรียกว่า “แก่งหางแมวโมเดล” แต่ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้คือ ต้องมีแหล่งอาหารให้ผึ้ง ซึ่งก็คือน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ โดยจะต้องมีดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ผลิบานสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งปี และจะต้องเป็นต้นไม้ที่ไม่ถูกฉีดพ่นด้วยสารเคมีอย่างเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อผึ้งได้


ด้วยขนาดร่างกายที่ใหญ่โตและน้ำหนักตัวหลายตัน ทำให้ช้างที่โตเต็มวัยต้องการอาหารมากกว่าวันละ 100 กิโลกรัม และเจ้างวงยาวก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าพืชพรรณธัญญาหารที่หาเจอนั้นจะเป็นเรือกสวนไร่นาที่มีเจ้าของ  มีป้ายห้าม หรือทำรั้วกั้นไว้ เพราะช้างมองเห็นก็แต่อาหารอันโอชะเท่านั้น  

ปัญหากระทบกระทั่งระหว่างคนกับช้างป่าในดินแดนซาฟารีอย่างที่แอฟริกาใต้ จึงไม่แตกต่างกับไทย และแนวคิดที่จะแก้ปัญหาก็คล้าย ๆ กันนั่นคือ ใช้สัตว์ตัวน้อยอย่างผึ้งมาช่วยไล่สัตว์ใหญ่อย่างช้าง


NGO กลุ่ม Elephants Alive ทดลองทำโครงการรั้วผึ้งกันช้างบริเวณรอยต่ออุทยานแห่งชาติ Kruger ทางตะวันออก-เฉียงเหนือของประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเหมือนจะได้ผลดี แม้ว่าผิวหนังของช้างจะหนาถึงราว 3 เซนติเมตร แต่มันกลับมีประสาทสัมผัสที่อ่อนไหวอย่างไม่น่าเชื่อ ช้างที่โตเต็มวัยสามารถรับความรู้สึกได้ตอนที่มีแมลงบินมาเกาะบนหลัง และแน่นอนว่ามันย่อมไม่อยากถูกพิษเหล็กไนอันเจ็บปวดของผึ้งต่อยเข้าเป็นแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่อ่อนโยนมาก ๆ อย่างที่ปลายงวง ซึ่งธรรมชาติของเจ้าผึ้งตัวน้อยก็ชอบมองหาตรงที่ที่ผิวหนังมีความชื้นเสียด้วย หากเจ้าตัวใหญ่ถูกผึ้งต่อยตรงปลายงวง นอกจากความเจ็บปวดแล้วยังอาจทำให้มันมีปัญหากับการหายใจ หรือถึงขั้นหายใจไม่ออกได้เลยทีเดียว และช้างก็ฉลาดพอที่จะจดจำได้ว่ามันจะต้องหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ หรือรุกล้ำถิ่นที่อยู่ของเจ้าแมลงตัวน้อยนี้

หลังเริ่มทดลองโครงการรั้วผึ้งกันช้างมาได้ราว 2 ปี และเห็นผลสำเร็จ ทีมนักวิจัยได้พยายามปรับปรุงวิธีการให้ได้ผลดีขึ้น โดยเฉพาะการทำรังผึ้งที่ต้องไม่ให้มีผลกระทบต่อต้นไม้ใหญ่ หรือทำให้เนื้อไม้เกิดความเสียหาย มีการนำวัสดุอย่างไฟเบอร์กลาสมาทำเป็นกล่อง หรือลังเลี้ยงผึ้งที่สามารถเคลื่อนย้ายไปยังที่ที่ต้องการได้ รวมทั้งสามารถแขวนขวดน้ำหวานเพื่อเพิ่มแหล่งอาหารให้แก่ผึ้งได้ด้วย   ส่วนผลพลอยได้ที่ตามมาคือ น้ำผึ้ง ไขผึ้ง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากผึ้งก็ยังสามารถนำไปจำหน่ายได้อีกด้วย.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน