ยังไม่พบร่างสาววัย 18 กระโดดสะพานพระราม 8

กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – สำนักข่าวไทย ตรวจสอบกรณีหญิงสาวอายุ 18 ปี ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กกระโดดสะพานหวังฆ่าตัวตาย ล่าสุดตำรวจยืนยันยังไม่พบศพ และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ



ภาพที่เห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ความยาว 4.57 นาที ซึ่งมีผู้แชร์ต่อกันจนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ โดยในคลิปเป็นภาพหญิงสาวที่ในมือของเธอกำลังถือขวดแอลกอฮอล์ เปิดเพลง “แพ้แล้วพาล” ซึ่งเป็นเพลงของคนอกหัก ยืนอยู่บนสะพานพระราม 8 ถอดรองเท้าและวางทรัพย์สินทั้งหมดไว้ที่พื้น จากนั้นได้ปีนขึ้นไปนั่งบนขอบรั้ว แล้วกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะมีเสียงแสดงความตกใจของคนที่ช่วยถือมือถือถ่ายไลฟ์ และภาพก็ตัดหายไป


ขณะที่สำนักข่าวไทย ตรวจสอบไปยัง พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับการ สน.บวรมงคล เจ้าของพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า หญิงสาวรายนี้อายุ 18 ปี และได้กระโดดจากสะพาน เมื่อเวลาประมาณ 01.00-02.00 น. วันนี้ (2 ม.ค.) โดยตำรวจได้รับแจ้งจากคนขี่รถจักรยานยนต์ Grab Bike ซึ่งเป็นคนที่ถือโทรศัพท์มือถือถ่ายทอดสดให้หญิงสาวรายนี้ว่า มีคนตกสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่จึงนำกำลัง ทั้งตำรวจท้องที่ ตำรวจน้ำ และกู้ภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ไม่พบหญิงสาวรายดังกล่าวในน้ำ ทำให้คาดว่าอาจถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดหายไป และยังไม่แน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่ แต่หากเสียชีวิตแล้วจริงๆ คาดว่าศพจะลอยขึ้นมาเองใน 1-2 วันนี้ ส่วนการส่งนักประดาน้ำลงไปงม จะทำได้ต่อเมื่อพบหลักฐาน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า หรือทรัพย์สินของผู้สูญหาย


ด้านหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ ให้การว่า ได้รับหญิงสาวรายนี้มาจาก ถ.นราธิวาส ย่านสาทร เพื่อไปส่งที่สะพานพระราม 8 จากนั้นหญิงสาวก็ชวนขึ้นไปถ่ายคลิปไลฟ์ ตนเห็นว่าดึกแล้ว จึงขึ้นไปเป็นเพื่อน โดยไม่คาดคิดว่าเธอจะกระโดดลงไป  

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊กของหญิงสาวรายนี้ พบว่ามีการลบคลิปไลฟ์สดไปแล้ว เหลือเพียงภาพและข้อความลงไว้เมื่อคืนเคาท์ดาวน์ ลักษณะตาแดง ร้องไห้ เขียนข้อความว่า “เผลอส่งคลิปเสียงให้ใครขอโทษนะคะ โดนผู้ชายเห็นแก่ตัวทำร้ายค่ะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันสุดมากๆ ไม่สามารถอโหสิกรรมให้ได้…” ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้เก็บภาพดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ.-สำนักข่าวไทย

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี

กกต. เผยเลือกตั้งเทศบาล มีคำร้อง 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิด กม.

ประธาน กกต. เผยยอดคำร้อง “เลือกตั้งเทศบาล” เพิ่มเป็น 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ คาดรู้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกิน 4 ทุ่ม