กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – กรมชลประทานยืนยันน้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะเดียวกันมั่นใจฝนตกปลายสัปดาห์ไม่กระทบบริหารจัดการน้ำ
นายณรงค์ ลีนานนท์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงข้อกังวลของชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่าน้ำจะท่วมนั้น ขณะนี้น้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำบางไทรอยู่ที่ 2,172 ลบ.ม./วินาที ไม่เกินศักยภาพและเร่งผันออกระบบชลประทานฝั่งตะวันออกและตะวันตก เพื่อระบายออกสู่ทะเลเร็วที่สุด จึงให้ความมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดน้ำท่วมแน่นอน
ทั้งนี้ จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าวันที่ 14-15 ตุลาคมนี้ จะมีฝนตกอีกครั้ง แต่จะไม่หนักเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมชลประทานมั่นใจว่าจะไม่ให้น้ำล้นตลิ่งรุนแรงมากกว่าปัจจุบัน เนื่องจากระยะที่ปลอดฝนขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ออกทะเล เพื่อให้สามารถรับฝนใหม่ทัน โดยวันนี้ระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,297 ลบ.ม./วินาที และจะไม่ระบายเกิน 3,000 ลบ ม./วินาที ตามที่ตกลงกับจังหวัดต่าง ๆ แน่นอน
สำหรับทุ่งเจ้าพระยานั้น บริหารจัดการโดยเก็บน้ำเข้าแก้มลิงต่าง ๆ เหนือเขื่อนเจ้าพระยาทั้งขนาดเล็กและใหญ่จนเขื่อนเต็มศักยภาพแล้ว สามารถลดปริมาณน้ำเหนือได้มาก ขณะที่ทุ่งป่าโมก ผักไห่ และบางบาล ระบายน้ำเข้าทุ่งป่าโมกบางส่วนตามความต้องการของประชาชนที่แจ้งผ่านมายังจังหวัด ทั้งนี้ การผันน้ำเข้าทุ่งเพื่อลดปริมาณน้ำยังไม่มีความจำเป็นใด ๆ นอกจากเป็นความต้องการของเกษตรกรที่ต้องการเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูเพาะปลูกหน้า
ส่วนกรณีประชาชนประท้วงให้เปิดประตูระบายทุ่งเจ้าเจ็ด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อหวังลดระดับน้ำนอกคันกั้นน้ำนั้น รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ยังไม่สามารถทำได้ เพราะทุ่งเจ้าเจ็ดยังมีพื้นที่ที่ยังไม่ได้เกี่ยวข้าวอีกกว่าแสนไร่ หากระบายน้ำเข้าไปจะเสียหายมาก ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สถานการณ์น้ำดีขึ้น ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลง จากวันละ 70 ล้าน ลบ.ม. เหลือ 51 ล้าน ลบ.ม. ระบายออกวันละ 60 ล้าน ลบ.ม. จึงมีพื้นที่ที่จะรับน้ำเหนือเพิ่มขึ้นหากมีฝนตกเพิ่ม .-สำนักข่าวไทย