กทม.29 ธ.ค.- สตม.กรณีครอบครัวชาวซิมบับเวติดอยู่สนามบินสุวรรณภูมิ ระบุ UNHCR กำลังพิจารณาส่งไปประเทศที่ 3 จากนี้จะเพิ่มการตรวจเข้มชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางไปประเทศที่ 3
ความคืบหน้ากรณีครอบครัวชาวซิมบับเว ติดอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมินานกว่า 3 เดือน ทั้งหมดอยู่ในการดูแลของสายการบินแห่งหนึ่งในเขตอาคารผู้โดยสารชั้นในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สาเหตุจากถูกปฏิเสธการเข้าประเทศปลายทาง ที่ต้องการดินทางไป และมีการส่งกลับมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครอบครัวชาวซิมบับเว มีสถานะอยู่เกินกำหนดของประเทศไทยทำให้ไม่สามารถกลับเข้าประเทศไทยได้นั้น
ล่าสุดพันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ระบุว่า อยู่ระหว่างการทำเรื่องของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เพื่อพิจารณาว่าจะส่งครอบครัวชาวซิมบับเวทั้ง 8 ไปประเทศที่ 3 ซึ่งยังไม่สามารถระบุเวลาในการดำเนินการได้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีการเตรียมแผนรองรับหากใช้ระยะเวลาดำเนินการนาน จะพาครอบครัวชาวซิมบับเวมาที่ห้องพักรอ ภายใต้การดูแลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู โดยจะยึดหลักมนุษยธรรมและตามกฏหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้จากการประสานกับ UNHCR ทราบว่า จะเร่งรัดเคสนี้เป็นกรณีพิเศษ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการส่งไปประเทศที่ 3 และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อกฏหมายตามหลักสากลทั้ง 3 ฉบับ ที่มีการทำร่วมระหว่างประเทศ คือ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง, อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน กรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีชาวต่างชาติประเทศใดอีก จากนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางไปประเทศที่ 3 หรือเข้ามาท่องเที่ยวช่วงเทศกาล ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก และเหตุนี้ไม่ถือว่ากระทบต่อข้อกำหนดด้านการรักษาความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ ICAO นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า ชาวซิมบับเวกลุ่มนี้ไม่มีเจตนาที่จะใช้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 คาดว่าเกิดจาก เหตุการณ์ความไม่สงบของประเทศต้นทาง.-สำนักข่าวไทย