ทำเนียบรัฐบาล 11 ต.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเผยไทยเตรียมตั้งคณะทำงานร่วมกับอลีบาบา ศึกษาแผนยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เพิ่มโอกาสการค้าในตลาดโลก ตั้งเป้าหมายเสร็จภายใน 1 ปี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนายแจ๊ค หม่า ประธานกลุ่มบริษัท อลีบาบาเข้าเยี่ยมคารวะที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า นายแจ๊ค หม่า ยืนยัน ไม่ได้ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ รวมทั้งช่วยยกระดับประเทศไทยเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 เน้นใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลไทย
ทั้งนี้ เนื่องจากอลีบาบามีความเชี่ยวชาญธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ซึ่งที่ผ่านมาอลีบาบาผลักดันธุรกิจขนาดเล็กในจีนและอีกหลายประเทศประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงอยากจะเข้ามาช่วยเหลือเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพของไทย เพราะปัจจุบันธุรกิจที่อยู่ไทยร้อยละ 90 เป็นธุรกิจเอสเอ็มอี จึงต้องผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้โอกาสค้าขายในต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องช่วยส่งเสริมความรู้ให้นักธุรกิจไทยเข้าใจวิธีการค้าขายสินค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ สร้างความตื่นตัวให้กับเด็กรุ่นใหม่เข้าใจวิธีการขาย ซึ่งอลีบาบาเคยทำในจีนและประสบความสำเร็จมาแล้ว
นายสมคิด กล่าวว่า รัฐบาลจะตั้งคณะทำงาน 2 คณะ แบ่งเป็นคณะทำงานของไทยและคณะทำงานจากอลีบาบา เพื่อวางแผน หรือ Action plans ร่วมกันให้เสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี หรือปี 2560 ซึ่งทางอลีบาบาต้องการเชิญชวนให้รัฐบาลไทยและผู้ประกอบการไปดูงานบริษัทในจีนที่มีการใช้เครื่องมือทันสมัยในยุคดิจิทัลและวิธีการทำอย่างไรถึงจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ พร้อมกับส่งเสริมสถาบันการศึกษาและชุมชนให้เข้าใจวิธีการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ นายแจ็ค หม่า ยังสนับสนุนที่ไทยผลักดันโครงการระบบการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเพย์เม้นของรัฐบาล เพราะไม่เพียงแต่จะลดการใช้เงินสดในอนาคต แต่จะช่วยเก็บข้อมูลของลูกค้าถึงความต้องการสินค้า สามารถนำมาพัฒนาสินค้าและธุรกิจให้เหมาะสมกับความต้องการมากขึ้น โดยอลีบาบา ยินดีจะให้คำแนะนำรัฐบาลไทยโดยเฉพาะระบบความปลอดภัยไม่ให้มีข้อบกพร่องหรือไม่ให้มีการโกง พร้อมทั้งจะร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสนับสนุนการคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น
ขณะเดียวกันนายแจ๊ค หม่า ยังสนใจที่จะร่วมลงทุนใน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี โดยเสนอให้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีหรือฟรีเทรดโซน สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อปลอดภาษีอากรนำเข้า-ส่งออก สร้างให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าของเอสเอ็มอี หรือ E-HUB จากปัจจุบันไทยฟรีเทรดโซนเฉพาะธุรกิจรายใหญ่เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย