กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – สศก.เผยจีดีพีเกษตรปี 60 โตร้อยละ 5.3 มั่นใจนโยบายและมาตรการด้านการเกษตรจะเป็นผลต่อเนื่อง บวกกับทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ดีจะส่งผลปี 61 ยังขยายตัวร้อยละ 3.0 – 4.0
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2560 พบว่า ขยายตัวร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับปี 2559 หากพิจารณาเป็นรายสาขา พบว่า สาขาพืช ขยายตัวร้อยละ 6.8 พืชสำคัญที่มีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ลำไย ทุเรียน มังคุด และเงาะ สาขาปศุสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 2.0 สาขาประมง ขยายตัวร้อยละ 2.2 สาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัวร้อยละ 4.7 สาขาป่าไม้ ขยายตัวร้อยละ 2.3
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 3.0 – 4.0 โดยสาขาพืช ขยายตัวร้อยละ 3.5 – 4.5 สาขาปศุสัตว์ขยายตัวร้อยละ 1.3 – 2.3 สาขาประมงขยายตัวร้อยละ 2.0 – 3.0 สาขาบริการทางการเกษตรขยายตัวร้อยละ 2.0 – 3.0 และสาขาป่าไม้ขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5 โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ การดำเนินนโยบายและมาตรการด้านการเกษตรต่าง ๆ ที่เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง โดยขยายผลให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพของผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด สภาพอากาศและปริมาณน้ำยังคงเอื้ออำนวยต่อการผลิตทางการเกษตร และเศรษฐกิจโลกปี 2561 มีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทย
ส่วนแนวโน้มดัชนีรายได้เกษตรกรปี 2561 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2560 จากผลผลิตสินค้าเกษตรสำคัญที่เพิ่มขึ้น อาทิ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน สับประรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพอากาศและยังมีน้ำต้นทุนเหลือมากพอสำหรับการทำเกษตรจากการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การเพาะปลูกทำได้มากขึ้น ประกอบกับการดำเนินนโยบายและมาตรการด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2561 เน้นการดำเนินการเป็นทีมบูรณาการทั้งส่วนกลางและภูมิภาคที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกรได้ครบทุกด้าน รวดเร็ว และทันต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น ส่งผลดัชนีรายได้ภาคเกษตรปีหน้ายังคงขยายต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย