ผลตรวจสอบรื้อคดีครูจอมทรัพย์

20 ธ.ค.-คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรื้อคดีครูจอมทรัพย์ กระทรวงยุติธรรม สรุปการตรวจสอบข้อเท็จพบว่าขบวนการรื้อฟื้นคดีถูกจัดฉาก และเกิดก่อนกระทรวงเข้าช่วยเหลือ ขณะที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมสั่งจัดระเบียบช่วยเหลือใหม่ทั้งหมด


คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงช่วยเหลือรื้อคดีครูจอมทรัพย์ของกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยผลสรุปการสอบสวน ซึ่งใช้เวลา 30 วัน ตรวจสอบขั้นตอนกระบวนการและบทบาทของเจ้าหน้าที่กระทรวง ซึ่งผลสอบระบุชัดเจ้าหน้าที่ทำตามกรอบอำนาจในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน

โดยเปิดไทม์ไลน์แสดงขั้นตอนกระบวนการรับความช่วยเหลือของนางจอมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2557-2560 ซึ่งเข้ายื่นคำร้องขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสามีและญาติได้เข้ายื่นคำร้องขอให้ช่วยรื้อฟื้นคดีกับแทบทุกหน่วยงาน ทั้งยื่นโดยตรงกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครพนม และสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แทงเรื่องกลับมาให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพรับไว้ดำเนินการ และเข้าสู่ขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งได้ตรวจสอบพบว่ามีพยานหลักฐานใหม่ตามที่ผู้ร้องนำเสนอ


โดยมีการนำตัวนายสับ วาปี ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.นาโดน และรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถชนคนตายจริง ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนจะมายื่นคำร้องถึงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม

ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 สั่งรับคำร้องรื้อฟื้นคดี นางจอมทรัพย์ก็เดินทางมาขอบคุณทีมงาน ซึ่งเป็นทีมงานศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ ชุดที่ 2 เข้ามารับหน้าที่แทนชุดเดิมที่เกษียณอายุราชการ ในชั้นนี้มีการนำเครื่องจับเท็จมาใช้ พบว่านายสับและนายสุริยาให้การเท็จ

ส่วนข้อข้องใจของสังคมในกรณีที่เหตุใดพบว่านายสับและนายสุริยาให้การเท็จ แต่ยังให้ความช่วยเหลือต่อ และไม่นำข้อเท็จจริงให้ศาลพิจารณา การตรวจสอบประเด็นนี้ได้ข้อเท็จจริง ข้อเสนอแนะ รวมทั้งวิธีคิด วิธีการทำงาน และตรรกะในการทำงานของทีมงานทั้ง 2 ชุด รายงานต่อปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อพิจารณาแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ พบว่าพยานบุคคลในการรือฟื้นคดีใช้ไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยการตรวจสอบสภาพรถแทน


ส่วนอนาคตการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและการรื้อฟื้นคดี ปลัดกระทรวงยุติธรรมได้สั่งการให้จัดระเบียบใหม่ทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาการช่วยเหลือของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ ปฏิบัติเพียงกว้างๆ และไม่มีระเบียบครอบคลุมถึงวิธีการและขั้นตอนการช่วยเหลือที่ชัดเจน ที่สำคัญการรื้อฟื้นคดีอาญาไม่ใช่เรื่องทั่วไป แต่เป็นกรณีที่ศาลมีคำพิพากษามาแล้วถึง 3 ศาล กระบวนการจึงต้องรอบคอบ และไม่กระทบถึงหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมส่วนอื่นๆ ซึ่งระเบียบในการรับเรื่องร้องเรียนเพื่อช่วยเหลือในคดีอาญาที่จะปิดช่องว่างบางอย่างคาดว่าจะประกาศใช้เร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น