กทม.19 ธ.ค.-ที่ประชุมใหญ่คดีลอตเตอรี่เจ้าปัญหา 30 ล้านที่กาญจนบุรี ให้น้ำหนักอดีตตำรวจ ที่นำไปขึ้นเงินรางวัลเป็นเจ้าของตัวจริง เดินหน้าหาหลักฐานขบวนการจัดฉากหวังฮุบเงิน
พลตำรวจตรีชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมพลตำรวจตรีกฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในฐานะหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นประธาน กำชับให้เร่งสรุปผลการตรวจสอบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1จำนวน 30 ล้านบาทตัวจริง ระหว่างอดีตตำรวจ กับอดีตครู แต่จากพยานบุคคล พยานวัตถุ ที่รวบรวมจากหลายจุด ทำให้เจ้าหน้าที่มีบทสรุปในใจแล้วว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริง แต่ยังไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนประสานขอลอตเตอรี่เจ้าปัญหา จากสำนักงานสลากกินแบ่งฯมาตรวจหาดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง จึงจะสรุปผลอย่างเป็นทางการได้ เมื่อมีการแต่งตั้งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนคดี โดยมารยาทแล้ว พลตำรวจตรีสุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี จะไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวคดีได้
นอกจากนี้ชุดสืบสวนกองปราบปราม ก็พยานหลักฐานว่ามีขบวนการจัดฉาก หวังรับรางวัลที่ 1 หรือไม่ จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะมีการออกหมายเรียก หรือขอหมายจับใครบ้าง
มีรายงานข่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานและพยานบุคคล เจ้าหน้าที่เริ่มให้น้ำหนักว่า อดีตตำรวจเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ และลายพิมพ์นิ้วมือบนลอตเตอรี่ก่อน จึงจะสามารถสรุปผลอย่างเป็นทางการได้ว่าใครคือ เจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านตัวจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กองปราบปรามได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทั้งสิ้น 6 กรณี อาทิ ที่ จ.สุพรรณบุรี, เขตประเวศ กทม. ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ สองสามีภรรยา ถูกรางวัลที่ 1 เรื่องจบไปแล้ว เหลืออีก 5 คดี ที่จะต้องสะสางทำความจริงให้ปรากฎตามคำสั่ง ผบ.ตร.-สำนักข่าวไทย