อสมท 16 ธ.ค. – “เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า” เห็นแย้ง“กรมควบคุมโรค” บิดเบือนงานวิจัยต่างประเทศหลายฉบับยืนยันอันตรายน้อยกว่า “บุหรี่มวน” ยกทั่วโลกจัดเป็นสินค้าถูกกฏหมาย หวังภาครัฐไทยเห็นคล้อยตาม ประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อตีกรอบป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) และเฟสบุ๊คเพจ บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร กล่าวถึงกรณีที่ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)หลายราย ออกมาระบุถึงอันตราย และสารพิษจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า บ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา ว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ออกมาจาก สธ.หลายเรื่องค่อนข้างคลาดเคลื่อน และสวนทางกับผลวิจัยของต่างประเทศ โดยเฉพาะข้อมูลจากทาง กรมควบคุมโรค ที่ย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ โลหะหนัก จนถึงยาดองศพ พร้อมแนะเยาวชน และผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ไม่ควรลองใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน อ้างผลการตีความวิจัยแบบผิดๆ ตรงข้ามกับงานวิจัยในต่างประเทศ พยายามปิดโอกาสของผู้สูบบุหรี่ที่จะได้เข้าถึงทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่า เห็นได้ว่าภาครัฐมีความตั้งใจในการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับประชาชน ทางเครือข่ายจึงพยายามเรียกร้องให้มีการพูดคุยผลการศึกษาของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นกลาง
นายมาริษ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าฯ ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงผลการวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า กับคณะอนุกรรมาธิการพาณิชย์ฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนประกาศกระทรวงพาณิชย์ในการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเราได้ให้ข้อมูลพร้อมผลการวิจัยกับคณะอนุกรรมาธิการฯ ไปแล้วว่า กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ลอนดอน และสถาบันมะเร็งอังกฤษ ต่างยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษที่ออกมาน้อยกว่าบุหรี่มวนมาก และผลการวิจัยจำนวนมากยืนยันว่าไม่ได้เป็นตัวดึงดูดเด็กเยาวชนหรือผู้ไม่สูบบุหรี่ ทุกวันนี้แม้จะยังไม่มีข้อมูลผลกระทบระยะยาว แต่รัฐบาลหลายประเทศก็อนุญาตให้ใช้ โดยมีกฎหมายควบคุมอย่างถูกต้อง
ส่วนตัวมองว่าถึงเวลาแล้วที่บ้านเราน่าจะเอาข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีอยู่ทั้งหมดมาพูดคุยกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่โต้กันไปกันมาผ่านสื่อแบบนี้ และที่สำคัญรัฐบาลจะได้มีแนวทางที่อยู่บนพื้นฐานของผลวิจัยวิทยาศาสตร์มาช่วยกำหนดนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมซึ่งช่วยป้องกันปัญหาการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชน แถมยังช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศได้อีกด้วย ซึ่งท่าทีของที่ประชุมมีความเป็นกลางและรับฟังข้อมูลความเห็นของผู้บริโภคเป็นอย่างดี และจะทำสรุปเพื่อพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย