กรุงเทพฯ 16 ธ.ค.- ดีเดย์ 17 ธ.ค.นี้ใช้ใบสั่งแบบใหม่พร้อมกันทั่วประเทศ ถูกจับ-ปรับจ่ายเงินที่ตู้เอทีเอ็มได้
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3ในฐานะผู้รับผิดชอบ โครงการระบบโปลิสทิคเก็จเมเนจเม้นท์หรือพีทีเอ็ม( Police Ticket Management) กล่าวว่า ในวันที่ 17 ธ.ค. นี้ เป็นวันแรก ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเริ่มใช้ใบสั่งรูปแบบใหม่ พร้อมกันทั่วประเทศ โดยตั้งแต่วันพรุ่งนี้หากผู้ขับขี่ถูกจับปรับในทางกระทำความผิดกฎหมายจราจร จะได้รับใบสั่งแบบใหม่ทันที
โดยใบสั่งแบบใหม่ จะปรับปรุงให้เป็นแบบสากลมากขึ้น มีบาร์โค๊ดด้านล่างใบสั่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้บันทึกข้อมูลการกระทำความผิดลงระบบ และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ พร้อมทั้งมีช่องให้เจ้าหน้าตำรวจราจรขีดในช่องข้อหา โดยไม่ต้องใช้ระบบการเขียนด้วยลายมือเหมือนที่ผ่านมา และในข้อหารายละเอียดต่างๆจะมีภาษาอังกฤษกำกับด้วย โดยหลังจากที่ประชาชนได้รับใบสั่งรูปแบบใหม่ สามารถไปชำระค่าปรับที่เคาเตอร์เซอรวิส ธนาคารกรุงไทย ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย หรือระบบแอปพลิเคชั่น KTB net bank ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นบนมือถือ หรือสถานที่ที่มีสัญลักษณ์พีทีเอ็ม(PTM)แสดงอยู่ หรือ ตู้บุญเติม หลังจากได้ใบสั่ง แล้ว 3 วัน โดยมีค่าธรรมเนียมบิลละ20บาท แต่กรณีที่ถูกยึดใบขับขี่ สามารถไปชำระได้ที่ สน.หรือ สภ.พื้นที่ ได้ทันที ซึ่งแนวทางการปฏิบัติดังกล่าวเป็นการเพิ่มช่องทางความสะดวก ในการชำระค่าปรับให้กับประชาชนมากขึ้น รวมทั้งเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ของผู้ขับขี่ให้เคารพกฎหมาย เคารพกฎจราจรมากขึ้น
ทั้งนี้หากผู้ขับขี่ ไม่ชำระค่าปรับภายในกำหนด เจ้าหน้าที่ จะทำการตัดคะแนนตามข้อหา ก่อนส่ง ข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอดำเนินการงดออกเครื่องหมายแสดงภาษี และพักใช้ใบอนุญาต ต่อไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 14/2560 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่งแนวทางการตัดคะแนน จะมีการพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพได้ในปีหน้า
อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะ มีการประชาสัมพันธ์ ถึงวิธีการชำระเงิน ข้อบังคับต่างๆ ให้ประชาชนทราบอีกครั้ง เพื่อป้องกันการสับสน.-สำนักข่าวไทย