กรุงเทพฯ 29 ก.ย.- ฟุตบอลไทยลีก 3 เตรียมเปิดฉากต้นเดือนตุลาคมนี้ ภายใต้รูปแบบการแข่งขันใหม่ ซึ่งทุกทีมต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิด-19
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศรูปแบบการแข่งขันใหม่ ศึกฟุตบอลไทยลีก 3 และไทยลีก 4 โดยจะรวมให้เหลือลีกเดียว กำหนดเปิดลีก 3 ตุลาคม 2563 ส่วนเกมในรอบแชมเปียนส์ลีก จะแข่งนัดแรก 6-7 ก.พ.64 และนัดสุดท้าย วันที่ 6-7 มีนาคม 2564 ส่วนรอบชิงแชมป์ประเทศไทย นัดแรก 13-14 มีนาคม 2564 และนัดที่สอง 20-21 มีนาคม รูปแบบการแข่งขัน สามารถขึ้นทะเบียนนักเตะได้ 35 คน โควตานักกีฬาต่างชาติ 3 คน โดยการขึ้นทะเบียนนักกีฬาต้องอยู่ภายใต้ระเบียบของฟีฟ่า
โครงสร้างลีกใหม่ จะแบ่งออกเป็น 6 โซน โซนละ 11-14 ทีม แชมป์และรองแชมป์ของแต่ละโซน จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีก ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แชมป์กลุ่มจะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นไทยลีก 2 อัตโนมัติ และเข้าไปเล่นในรอบชิงแชมป์ประเทศ ขณะที่รองแชมป์กลุ่มจะชิงอันดับ 3 เพื่อสิทธิ์เลื่อนชั้นไปไทยลีก 2 ขณะที่ปีนี้ไม่มีทีมตกชั้น
“โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่หวนกลับมาคุมทีม “มังกรแดนใต้” นครศรี ยูไนเต็ด ในไทยลีก 3 โซนภาคใต้ กล่าวพอใจรูปแบบการแข่งขันใหม่ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพราะทุกทีมต้องปรับตัว และตั้งเป้านำทีมเลื่อนชั้นสู่ที-2 แม้ไม่ใช่งานง่าย เพราะบอลแดนใต้ต่างแข็งแกร่งทุกทีม
“โค้ชจุ่น” จตุพร ประมลบาล อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่เพิ่งจะเปิดตัว “สายฟ้านกอินทรี” พราม แบงค็อก สู้ศึกไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล ในฐานะประธานสโมสรและหัวหน้าผู้ฝึกสอน มองว่ารูปแบบการแข่งขันใหม่ จะตอบโจทย์ให้แต่ละทีมได้พัฒนานักเตะและสู้กันได้สนุกมากขึ้น
“บิ๊กโต” ณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการช้างเผือกโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เชื่อว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลไทย แก้ปัญหามาถูกทางแล้ว ภายใต้ระเบียบการแข่งขันใหม่ทุกสโมสรในศึกไทยลีก 3 ต้องมองไปข้างหน้าร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไปให้ได้
สโมสรในศึกไทยลีก 3 ทั้ง 6 โซน รวม 72 ทีม แม้ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ต้องปรับตัวแบบนิวนอร์มอล “ไทยลีก 3 + ไทยลีก 4” ซึ่งนำโมเดลของ “ลีกภูมิภาค” กลับมาใช้อีกครั้ง จะสามารถแก้ปัญาฟุตบอลระดับรากหญ้าได้หรือไม่ ทุกฝ่ายต้องจับมือช่วยกัน “เพื่อเป้าหมาย พัฒนาฟุตบอลไทย”.-สำนักข่าวไทย