ก.บ.ภ.เน้นพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัดให้ทัดเทียมกันทั่วทุกภูมิภาค

ทำเนียบฯ 15 ธ.ค.- ที่ประชุม ก.บ.ภ. เห็นชอบกรอบแผนดำเนินการของ ก.บ.ภ. ทั้ง 6 ภาค ที่เน้นการพัฒนาแต่ละจังหวัด รวมถึงกลุ่มจังหวัดให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกันทั่วทุกภูมิภาค และเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการ ก.บ.ภ. โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับและติดตามงานในแต่ละกลุ่มจังหวัด 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาคและพื้นที่ หรือ ก.บ.ภ.ครั้งที่ 1 / 2560 ที่ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมของคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค ซึ่งแม้หลายพื้นที่จะมีความแตกต่างกันอยู่ แต่ก็ต้องปรับการทำงานให้สอดรับ เพื่อดึงศักยภาพให้ออกมาและขับเคลื่อนต่อไป โดยเฉพาะการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งมีลักษณะงานทั้งแบบฟังก์ชั่นและงานของกลุ่มจังหวัด ที่จะต้องสอดคล้องกับระดับภาค เพื่อสร้างให้เกิดความเข้มแข็งในพื้นที่

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาคและพื้นที่ (ก.บ.ภ.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากำหนดแนวทางและกลไกการบูรณาการ นโยบายพัฒนาภาค กลุ่มภาค และกำหนดนโยบายหลักเกณฑ์ รวมถึงวิธีการจัดทำแผนพัฒนาและแผนปฎิบัติการประจำปีในระดับจังหวัดกลุ่มจังหวัดและระดับภาค

โดยที่ประชุมเห็นชอบกรอบแผนดำเนินการของ ก.บ.ภ. ทั้ง 6 ภาค ที่เน้นการพัฒนาแต่ละจังหวัดรวมถึงกลุ่มจังหวัดให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกันทั่วทุกภูมิภาค และเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการ ก.บ.ภ. โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับและติดตามงานในแต่ละกลุ่มจังหวัด โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ติดตามกำกับดูแลภาคกลาง  พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง กำกับดูแล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กำกับดูแลภาคตะวันออก  นายวิษณุ เครืองาม กำกับดูแลภาคเหนือ และกำกับดูแลงานด้านวิชาการ  พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กำกับดูแลภาคใต้และภาคใต้ชายแดน 


ทั้งนี้ ทิศทางการพัฒนาภาค จะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) โดยให้แต่ละอนุกรรมการไปพิจารณาจัดเตรียมงบประมาณ ประจำปี 2562 โดยมีงบประมาณในส่วนของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่เตรียมไว้ 28,000 ล้านบาท โดยให้พิจาณาความจำเป็นแต่ละโครงการภายใน 1 เดือน ก่อนเสนอกลับมายังที่ประชุมให้พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากงบประมาณไม่เพียงพอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า พร้อมจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้ โดยจะนำไปหารือกับทางสำนักงบประมาณต่อไป

นายปรเมธี กล่าวว่า เป้าหมายของทิศทางการพัฒนาภาคกลางและพื้นที่กรุงเทพมหานคร  จะพัฒนากรุงเทพฯสู่มหานครทันสมัย และภาคกลางเป็นฐานการผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง  ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและสร้างความเชื่อมโยง เพื่อกระจายการท่องเที่ยวทั่วทั้งภาค เปิดประตูการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย-ภาคกลาง-ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และบริหารจัดการน้ำและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม

ทิศทางการพัฒนาภาคเหนือ ให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง เชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง  โดยพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการต่อเนื่องให้มีคุณภาพ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนและกระจายประโยชน์อย่างทั่วถึง รวมทั้งต่อยอดการผลิตสินค้าการบริการที่มีศักยภาพสูงด้วยภูมิปัญญาและนวัตกรรม ใช้โอกาสจากเขตเศรษฐกิจพิเศษและการเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคเพื่อขยายฐานเศรษฐกิจของภาค และยกระดับเป็นฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้คงความสมบูรณ์ จัดระบบบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมและเชื่อมโยงให้ทั่วถึงป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันอย่างยั่งยืน


ทิศทางการพัฒนาภาคใต้ มีเป้าหมายทำให้ภาคใต้ เป็นเมืองท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศระดับโลก และเป็นศูนย์กลางผลิตภัณฑ์ยางพาราและปาล์มน้ำมันของประเทศ และเป็นเมืองเศรษฐกิจเชื่อมโยงการค้า การลงทุนกับภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก การพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปยางพาราและปาล์มน้ำมันแห่งใหม่ของประเทศ การพัฒนาผลิตสินค้าเกษตรหลักของภาค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยว การพัฒนาเขตอุตสาหกรรม และเชื่อมโยงการค้าโลก

ทิศทางการพัฒนาภาคใต้ชายแดน ให้เป็นแหล่งผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่สำคัญของประเทศ และเป็นเมืองชายแดนเชื่อมโยงการค้าและการท่องเที่ยวกับพื้นที่ภาคใต้ และการพัฒนาเศรษฐกิจของมาเลเซียและสิงคโปร์ โดยเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร เพื่อความมั่นคงให้กับภาคผลิต พัฒนาเมืองสุไหงโก-ลก และเมืองเบตง ให้เป็นเมืองการค้าและเมืองท่องเที่ยวชายแดน รวมทั้งการเสริมสร้างความเข้มเข็งให้กับชุมชน

ทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน และใช้โอกาสจากการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่เชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจหลักภาคกลาง และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาเมือง และพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ๆ ของภาค และพัฒนาความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและแนวระเบียงเศรษฐกิจ

ทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออก มีเป้าหมายในเป็นฐานเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน เน้นการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ให้เป็นเขตเศรษฐกิจที่ดีและทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน พัฒนาให้เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ปรับปรุงมาตรฐานสินค้าและธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติที่มีวิกฤต และจัดระบบการบริหารจัดการมลพิษให้มีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับรถขนส่งยาบ้า 10 ล้านเม็ด คนขับงง! ใบรายการระบุสินค้าลำโพงขนาดใหญ่

30 มิ.ย. – จับรถบรรทุก 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในลำโพง คนขับเผยเป็นพนักงานขับรถบริษัทขนส่ง บริษัทส่งรายการให้ไปรับสินค้าที่ อ.เวียงสา จ.น่าน นำไปส่งที่ จ.ลพบุรี ใบรายการระบุสินค้าลำโพงขนาดใหญ่ ด้าน รอง ผบช.ภาค 5 สั่งขยายผลตามหาผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบผู้ว่าจ้าง ที่ด่านตรวจเอกซเรย์ยาเสพติด ม.4 ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ พ.ต.ท.ทัตเทพ โชติเดโชชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการประจำด่านตรวจ ตรวจค้นรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนมหาสารคาม ขับเข้าด่านตรวจ โดยมีนายคำวัง ชาวมหาสารคาม เป็นคนขับ หลังตรวจเอกซเรย์แล้วพบสิ่งของต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงค้นพบเป็นลำโพงขนาดใหญ่ มีผ้าใบคลุมมิดชิด ปรากฏว่าภายในลำโพงซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้าเม็ดสีส้ม มีสัญลักษณ์ wy จำนวน 1,000 ห่อ แต่ละห่อมียาบ้า 10,000 เม็ด รวมยาบ้ามากถึง 10,000,000 เม็ด คนขับรถให้การว่า […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

พระกระหน่ำยิงพระร่วมวัดมรณภาพคาห้องน้ำ

ภูเก็ต 29 มิ.ย. – พระกระหน่ำยิงพระร่วมวัดดังภูเก็ตมรณภาพคาห้องน้ำ อ้างถูกรังแกบ่อยครั้ง ฟางเส้นสุดท้าย เปิดมือถือเสียงดังรบกวนในห้องน้ำ เกิดเหตุพระลูกวัดดังใน จ.ภูเก็ต ก่อเหตุกระหน่ำยิงพระในวัด มรณภาพคาห้องน้ำ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ควบคุมตัวพระจารึก อายุ 47 ปี พระผู้ก่อเหตุกระหน่ำยิงพระนิวัฒน์ อายุ 36 ปี ได้ในที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืน ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนขนาด .38 บรรจุอยู่ในลูกโม่ 6 นัด และยังมีกระสุนขนาดปืน.38 ซุกซ่อนอยู่ในกุฏิอีก 14 นัด จากนั้นคุมตัวพระจารึกไปสึก ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต และดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุอ้างว่า พระที่มรณภาพชอบข่มเหงรังแกอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ พระผู้ตายได้เข้าห้องน้ำโดยไม่ได้ล็อกกลอนประตู และเปิดมือถือเสียงดังรบกวน จึงเดินถือปืนไปเปิดประตูห้องน้ำพร้อมกระหน่ำยิงพระผู้ตายจนมรณภาพคาห้องน้ำ ก่อนจะบรรจุกระสุนใหม่อีก 6 นัด แล้วนำปืนไปซ่อนในกุฏิของตนเอง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ

ทำเนียบ 30 มิ.ย.-โผ ครม.แพทองธาร 1/2 หลังนำรายชื่อทูลเกล้าฯ นายกฯ ควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีแพทองธาร 1/2 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว สำหรับโผการปรับ ครม. ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.วัฒนธรรม ซึ่งวันนี้ (30 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรี ยอมรับเองว่าจะนั่งตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม เพราะต้องการผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ส่วน รมว.กลาโหม ยังเว้นว่างไว้ ตามรายงานข่าวแจ้งว่า จะให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการแทนไปก่อน ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะนั่งควบ รมว.มหาดไทย โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง และ […]

ลุยตรวจวัดตรีทศเทพฯ หลังอดีตเจ้าอาวาสลาสึกปริศนา

30 มิ.ย. – ป.ป.ท.-ปปป.-ป.ป.ช. เข้าพบรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ เพื่อร่วมตรวจสอบทรัพย์สินของวัด หลัง “เจ้าคุณอาชว์” ลาสึกปริศนาที่ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ท. บก.ปปป. และ ป.ป.ช. เดินทางเข้าพบรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ เขตพระนคร กทม. เพื่อร่วมตรวจสอบทรัพย์สินต่าง ๆ ของทางวัด ภายหลังจากพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขา (สึก) แล้ว ที่ จ.หนองคาย ซึ่งการลาสิกขาดังกล่าวยังเป็นปริศนาว่ามีที่มาเป็นอย่างไร โดยก่อนหน้ามีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ติดต่อขอเข้ารับทราบข้อเท็จจริง ภายหลังมีการร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องทุจริตเงินของวัดฯ แต่เจ้าคุณอาชว์ ปฏิเสธการเข้าพบ ก่อนที่จะหลบไปทำพิธีลาสิกขาดังกล่าว ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) มีคำสั่งเจ้าคณะภาค […]

นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ออกแบบ-ก่อสร้างผิด กม.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.- นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ครบ 90 วัน เกิดจากการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผนังช่องลิฟต์-บันไดไม่ได้มาตรฐาน เตรียมส่งข้อมูลให้ ดีเอสไอ-ตำรวจ ชี้คนผิด ยันเรื่องนี้ต้องไม่เงียบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เข้าร่วมประชุมด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเปิดประชุมว่า วันนี้ (30 มิ.ย.) ก็ครบ 90 วัน หรือ 3 เดือนพอดีหลังเกิดเหตุการณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า การแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม […]

ครอบครัวเหยื่อเก๋งแดง เศร้ารับศพไปบำเพ็ญกุศล

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – ครอบครัวเศร้ารับศพสาวเหยื่อเก๋งแดง ซิ่งชน จยย.รับจ้าง แล้วหนี ส่วนคนขี่ จยย.รับจ้าง บาดเจ็บสาหัส อาการยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยเพชรเกษม 19 จะเห็นรถจักรยานยนต์ขี่มาในเลนซ้ายตามปกติ ก่อนรถเก๋งสีแดงคาดดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ขับตามหลังมาในเลนเดียวกันจะพุ่งมาด้วยความเร็ว ชนรถจักรยานยนต์อย่างแรง จนร่างนายดุลยวัต อายุ 27 ปี คนขี่จักรยานยนต์ และนางสาวจิตติมา อายุ 30 ปี คนซ้อนท้าย ลอยไปไกลหลายเมตร อาการสาหัส ขณะที่นางสาวจิตติมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนรถเก๋งแดงกลับขับรถหลบหนีโดยไม่ลงมาดู ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามหารถคันนี้พบว่าหลบหนีมาจอดทิ้งไว้ที่คอนโดฯ ย่านถนนเพชรเกษม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก พบแต่รถยนต์ แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจไปพบจอดอยู่ในคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม คาดว่าน่าจะอยู่ในคอนโดฯ นี้ จึงเจรจากับนิติบุคคลคอนโดฯ นำรถมาที่สถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ และตามเจ้าของรถมาดำเนินคดีตามกฎหมาย นางสาวไพริน อายุ 41 ปี แฟนของผู้บาดเจ็บ เล่าทั้งน้ำตาว่า สามีมีอาขีพขี่ จยย.รับจ้างและโบลท์ […]