นนทบุรี 14 ธ.ค. – พาณิชย์ยันภาครัฐเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ทั้งลดปริมาณสตอก เร่งหาตลาดใหม่รองรับการส่งออก ประสานผู้ค้าน้ำมันซื้อน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตเป็นไบโอดีเซล
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรังให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำนั้น กระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่าคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ประชุมเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 และมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ด้วยการลดปริมาณสตอกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือที่ปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าระดับปกติ เพื่อบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศให้มีเสถียรภาพ โดยให้ผู้ส่งออก โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเร่งส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ให้กระทรวงพลังงานประสานผู้ค้าน้ำมันซื้อน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อเพิ่มสตอก นอกเหนือจากที่ผู้ค้ามาตรา 7 สำรองไว้เดิม
นอกจากนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกการส่งออก เช่น การขนส่งน้ำมันปาล์มและเรือในการส่งออก และให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) หารือกับเกษตรกรและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม กำหนดแนวทางการช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับราคาที่ดีขึ้น โดยเน้นการผลิตปาล์มคุณภาพ ปัจจุบันราคาผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน 18%) อยู่ที่กิโลกรัมละ 3.20 – 3.30 บาท และน้ำมันปาล์มดิบที่ กิโลกรัมละ 19 บาท ลดลงจากช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากภาวะการค้าน้ำมันปาล์มดิบทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งมีผลผลิตปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นเช่นกัน ประกอบกับ ปี 2560 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่าจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ออกสู่ตลาดประมาณ 13.51 ล้านตัน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.30 ซึ่งคิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ (ที่เปอร์เซ็นต์ร้อยละ 17.60 ) จะได้ 2.377 ล้านตัน (น้ำมันปาล์มดิบ) ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศปี 2560 อยู่ในระดับทรงตัว คาดว่าจะใช้ 2.068 ล้านตัน ปริมาณผลผลิตมีเกินความต้องการใช้ประมาณ 309,000 ตัน เมื่อรวมกับสตอกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือเมื่อต้นปี 2560 ทำให้ปริมาณสตอกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือทั้งระบบอยู่ในเกณฑ์สูงตามที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรังทราบ
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการคลัง โดยให้กรมศุลกากรเพิ่มความเข้มงวด กวดขัน ตรวจสอบ ปราบปรามการลักลอบนำเข้าและนำผ่านหรือผ่านแดนน้ำมันปาล์มทั้งทางบกและทางทะเลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศ รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะทำงานสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อเร่งหาตลาดใหม่รองรับการส่งออกน้ำมันปาล์มตามกลไกตลาดปกติเพิ่มขึ้น ตลอดจนจะดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาในเชิงระบบและสนับสนุนให้มีการพัฒนาปาล์มอย่างยั่งยืนที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ โดยให้องค์การคลังสินค้าเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาร่วมกันในลักษณะของสัญญาประชาคม และกำหนดมาตรการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกปาล์มในเชิงคุณภาพให้ได้มาตรฐานและให้โรงงานสกัด/ลานเทรับซื้อผลปาล์มสดตามเปอร์เซ็นต์น้ำมันจริง (ไม่ต่ำกว่า 18 เปอร์เซ็นต์) รวมถึงกำหนดราคารับซื้อตามตลาดโลกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้.-สำนักข่าวไทย