กลุ่ม ปตท.ร่วมมือ กสท โทรคมนาคม พัฒนานวัตกรรมรับอีอีซี

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค.- ปตท. จะประกาศผู้รับเหมาโครงการท่อก๊าซเส้นที่
 
5  เดือน ม.ค. ปี 2561
ล่าสุด จับมือ กสท โทรคมนาคม ลงนามความร่วมมือพัฒนาธุรกิจ
S-Curve และนวัตกรรมดิจิทัล ในพื้นที่อีอีซี


นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท  ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. เตรียมเสนอ
บอร์ด ปตท. ในเดือนนี้สำหรับงบลงทุน
5 ปี
โดยในส่วนนี้ก็จะมีโครงการท่อก๊าซเส้นที่
5 รวมอยู่ด้วย
ซึ่งเป็นการวางรากฐานความมั่นคงพลังงาน
รองรับการลงทุนรวมไปถึงโครงการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี
ซึ่งล่าสุดวันนี้ ปตท. ลงนามข้อตกลงความร่วมมือวางแผนพัฒนาธุรกิจ
S-Curve และนวัตกรรมดิจิทัล กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
โดยจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันในการพัฒนาโครงการ
เขตนิคมอุตสาหกรรมเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิตอล (อีอีซีดี) อ.ศรีราชา
จ.ชลบุรี  และ
เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซีไอ ) ในพื้นที่ วังจันทร์ วัลเลย์
กลุ่ม ปตท. จ.ระยอง  มีความร่วมมือทุกมิติ
อาทิ การเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งในและระหว่างประเทศ  ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
และระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย 
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ (
Connectivity) และการเชื่อมโยงอุปกรณ์เครือข่ายในยุคดิจิทัล
(
IoT Platform)  รองรับบริการอัจฉริยะในยุค
4.0 โดยความร่วมมือดังกล่าวมุ่งขยายขีดความสามารถ CAT
และ ปตท. ในการให้บริการแก่ประชาชน 
สนับสนุนให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกได้สูงยิ่งขึ้น
รวมทั้งลดภาระการลงทุนซ้ำซ้อนในระยะยาว
จากการนำทรัพยากรและความรู้ความสามารถของบุคลากรของทั้งสององค์กรมาใช้ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด

นายเทวินทร์ กล่าวว่า ปตท. วางแผนเรื่องการพัฒนา
ธุรกิจ
S-Curve ซึ่งจะสอดคล้องกับความร่วมมือดังกล่าว
โดยกำหนด ไว้
3 โครงการหลัก ได้แก่ 1. INDUSTRY
SOLUTION ซึ่งเน้นเรื่องการใช้นวัตกรรมมาใช้บริการเพื่ออุตสาหกรรม
มาว่าจะเป็นโครงการไอที โครงการหุ่นยนต์อัจฉริยะ หรือ
AI โครงการพัฒนาพื้นที่อัจฉริยะ
เป็นต้น โดยจะต้องมีศูนย์กลางข้อมูลที่สำคัญในการดำเนินการเรื่องนี้
ในปัจจุบันเริ่มดำเนินการบ้างแล้ว เช่น การนำโดรน การนำหุ่นยนต์มาตรวจสอบโรงกลั่น
โครงการระบบท่อเป็นต้น


2. ENERGY SOLUTION  ธุรกิจบริการด้านพลังงานครบวงจร
ที่จะดูตั้งแต่ธุรกิจไฟฟ้าครบวงจร การพัฒนารองรับรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)
การพัฒนาสถานีชาร์จไฟฟ้า
,สมาร์ทซิตี้,สมาร์กริด
รวมไปถึงการพัฒนาระบบสำรองไฟฟ้า (
ENERGY STORAGE) และ 3.การพัฒนาเทคโนโลยี จากฐานชีวภาพ ( BIO BASE TECHNOLOGY ) ซึ่ง กลุ่ม ปตท.จะพัฒนาทั้งเชื้อเพลิงชวภาพ ,พลาสติกชีวภาพ
และผลิตยาจากชีวภาพ

พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์
กรรมการผู้จัดการใหญ่  กสท โทรคมนาคม
กล่าวว่า ในเขตนิคมนวัตกรรมดิจิตอล พื้นที่
700 ไร่
ในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเชิญชวนผู้ลงทุน ในขณะที่ต้องรอร่างกฏหมาย
คาดว่าจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อความมั่นคง โดย ปตท.จะมีส่วนสนับนุนเรื่องนี้
ในขณะเดียวกัน ในพื้นที่จะมีการพัฒนาต้นแบบรถยนต์ไร้คนขับ รถไฟฟ้า และอื่นๆ
ซึ่งทั้งสององค์กรจะใช้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาร่วมกัน ในขณะที่ กสท
โทรคมนาคมจะให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลระบบ
CLOUD นับเป็นการใช้ข้อมูลวิเคราะห์
จาก
BIG DATA  ร่วมกัน  ส่วนจะมีการลงทุนมากน้อยขนาดไหน
จะทราบชัดเจนในเฟสแรกภายใน
3 เดือนข้างหน้า 

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและบริหารความยั่งยืน  ปตท. กล่าวว่า โครงการลงทุนเอ็นเนอร์ยี่สตอเรจ
ขณะนี้ ปตท.กำลังพิจารณาความร่วมมือกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
คาดว่าจะทราบผลชัดเจนว่าจะลงทุนที่ไหน อย่างไรภายใน
3 – 6 เดือนหน้า


นายชาญศักดิ์ ชื่นชม
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่วิศวกรรมและบริหารโครงการ ปตท. กล่าวว่า
โครงการท่อก๊าซเส้นที่
5 นั้น
ทางปตท.จะประกาศรายชื่อผู้รับเหมาก่อสร้างที่ชนะการประมูล ในเดือน มกราคม
2561  ระยะทาง 415 กม. แบ่งออกเป็น ระยะที่ 1 จากระยอง- ชลบุรี-
ฉะเชิงเทรา ระยะทางกว่า
200 กม. ราคากลางประมาณ  1.3 หมื่นล้านบาท  และระยะที่ 2 อีกประมาณ 200 กม.ราคากลางประมาณ 9 พันล้านบาท จาก ฉะเชิงทรา-
ปราจีนบุรี- กทม.- ปทุมธานี- พระนคร- ศรีอยุธยา- นนทบุรี   ซึ่งใช้ระบบสัญญาคุณธรรม
เข้ามาดำเนินการเพื่อความโปร่งใส โดยโครงการนี้
เพิ่มกำลังส่งก๊าซจากภาคตะวันออกไปภาคตะวันตก รองรับความมั่นคงและก๊าซจากเมียนมา
ที่ลดลง โครงการ จะแล้วเสร็จในต้นปี
2563
งบลงทุนที่ขออนุมัติจาก ครม.ทั้งโครงการอยู่ ที่
9.65
หมื่นล้านบาท  อย่างไรก็ตาม
ปตท.ประเมินว่าการลงทุนจะต่ำกว่างบที่เสนอไปเพราะการแข่งขันการก่อสร้างที่รุนแรง

คาดจะประกาศผลคัดเลือกผู้รับเหมาท่อก๊าซเส้นที่
5 ในเดือน มกราคม 2561  โดยคาดจากการแข่งขันที่รุนแรง
หลังจากการก่อสร้างท่อก๊าซ ท่อน้ำมันในตลาดโลกลดลงตามราคาน้ำมันที่ดิ่งในช่วง
2
– 3 ปีที่ผ่านมา ปตท.จะได้ราคาที่ดี โดยงบกลางเดิมในระยะที่  2 อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท  ทาง
ปตท.จึงประกาศราคากลางลดลงมาอยู่ที่ประมาณ
9 พันล้านบาท
ส่วนการประมูลในส่วนอุปกรณ์ท่อเหล็กของโครงการนั้นได้ประมูลไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยกลุ่มร่วมทุน มารูเบนิ-อิโตชู เป็นผู้ชนะการประมูล ซึ่งก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี
เพราะหากประมูลขณะนี้ต้นทุนอาจสูงขึ้น เพราะ
เหล็กในตลาดโลกช่วงนี้มีราคาขยับขึ้นประมาณร้อยละ
20″ นายชาญศักดิ์
กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]