เผย 10 อันดับ ธุรกิจเด่น 2561

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค.- คาดปี 2561 ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและอุปกรณ์จะโดเด่นมากที่สุด  ตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และนโยบายอินเทอร์เน็ตทุกหมู่บ้าน


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การวิจัยทางธุรกิจ 10 อันดับธุรกิจเด่น 2561 มีการพิจารณาจากเกณฑ์ด้านยอดขาย / ต้นทุน / ส่วนต่างของยอดขายต่อต้นทุน หรือ กำไรสุทธิ / ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและภาวะการแข่งขัน / และพิจารณาจากความต้องการและความสอดคล้องกับกระแสนิยม รวมทั้งสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่จะมีส่วนสนับสนุนและบั่นทอนการดำเนินธุรกิจ 

นางเสาวณีย์  ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า  ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและอุปกรณ์ เป็นธุรกิจเด่น ที่ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 94.5 จากอันดับที่ 4 ของปี 2560 ตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และนโยบายอินเตอร์เน็ตทุกหมู่บ้านของรัฐบาล / รองลงมาอันดับ 2 เป็นธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม ด้วยคะแนน 93.6 ขยับลดลงมาอันดับที่ 2 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 แต่ยังคงอยู่อันดับต้นๆ ตามกระสการรักษาสุขภาพและบริการทางการแพทย์ของไทยที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง 


ส่วนอันดับ 3 เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกมากขึ้น รองลงมาอันกับ 4 เป็นธุรกิจเครื่องสำอางค์และครีททาผิว / อันดับ 5 ได้แก่ ธุรกิจขนส่งและโลจิสตกิส์ และ ธุรกิจด้านปิโตเลีนมและพลาสติก / อันดับ 6 ได้แก่ ธุรกิจโมเดิร์นเทรด / ธุรกิจบริการทางด้านการเงิน / และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแนวใหม่ / อันดับ 7 ธุรกิจร้านขายยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ / อันดับ 8 ได้แก่ ธุรกิจด้านการศึกษา และธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว / อันดับ 9 ได้แก่ ธุรกิจประกันภัย / ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านความเชื่อ และอันดับที่ 10 ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจร้านเสริมสวย 

ส่วน 10 อันดับดาวร่วง ของปี 2561 ได้แก่ อันดับ 1 ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีนวัตกรรม / รองลงมาอันดับ 2  ธุรกิจด้านการผลิตเหมืองแร่ / อันดับ 3 ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์นิตยสาร และธุรกิจเช่าหนังสือ  / อันดับ 4 ธุรกิจผลิตและจำหน่ายซีดีและดีวีดี / อันดับ 5 ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน / อันดับ 6 ธุรกิจเคเบิ้ลทีวี / อันดับ 7 ธุรกิจผลิตสินค้าเกษตรยาง ปาล์ม ข้าว / อันดับ 8 ธุรกิจร้านขายมือถือมือ 2 / อันดับ 9 ธุรกิจร้านค้าแยบดั้งเดิม และอันดับ 10 ธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ต

ทั้งนี้ ธุรกิจด้านไอที ถือว่าขยับขึ้นมาอันดับที่  1 เป็นครั้งแรก แต่ถือว่าเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ที่จะเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ยุคดดิจิทัล และเป็นกระแสของโลกและยังมองว่าจีดีพีปีหน้าจะโตร้อยละ 4.5 ส่งออกโตร้อยละ 4.3 ตาเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวดีอยู่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร