คุมเข้มเรือนจำหลังไล่ออก-ให้ออก ขรก.14ราย

ยธ.8 ธ.ค.-กรมราชทัณฑ์ใช้มาตรการเข้มลงโทษเจ้าหน้าที่เรือนจำ ทำความผิดร้ายแรง ล่าสุดไล่ออกและให้ออก14ราย คาดทั้งปีมีจำนวนเพิ่มขึ้น 


พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์  เปิดเผยว่า  ตลอดระยะ เวลา 2 เดือน ได้ดำเนินนโยบายที่ได้วางแนวทางปฏิบัติหน้าที่ 3 ส.คือสะอาด สุจริต และเสมอภาค โดย 1 ใน 3 ส. คือ “สุจริต” ที่ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการในสังกัดยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  แต่ยังพบข้าราชการบางส่วนที่มีพฤติการณ์กระทำความผิด  ซึ่งล่าสุดที่ประชุม อ.ก.พ.กรมราชทัณฑ์ ครั้งที่ 4/2560ได้มีมติพิจารณาลงโทษข้าราชการกรณีกระทำผิดวินัย จำนวน 14 ราย เป็นความผิดที่ลงโทษไล่ออกทั้งหมด 13 ราย และให้ออกจำนวน1ราย  โดยมีพฤติการณ์ความผิดที่แตกต่างกัน 


โดยความผิดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือ เข้าไปใปในเรือนจำ ซึ่งเกิดขึ้นได้ต้องมีคนในที่รู้เห็นเป็นใจหรือประมาทเลินเล่อให้มีการนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปภายในเรือนจำ แต่ที่เพิ่งจับได้เป็นครั้งแรกคือการที่เจ้าหน้าที่หญิงของเรือนจำอำเภอ ทำหน้าที่เป็นธุระจัดหาให้ผู้ต้องขังชายจากแดนชาย3 คนเข้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องขังหญิงในห้องน้ำของแดนหญิง รวม3 คู่ โดยได้รับค่าจ้าง8,000บาทและมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ หรือเคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ไม่สามารถจับผิดได้ เนื่องจากเรือนจำส่วนใหญ่ จำนวน 135 แห่งจะควบคุมผู้ต้องขังหญิงชายไว้ภายในเรือนจำเดียวกันแต่แยกแดนมีเพียง8แห่งเท่านั้นที่เป็นเรือนจำเฉพาะผู้ต้องขังหญิง 


อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวยอมรับว่าปัญหาการประพฤติผิดของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีมาอย่างต่อเนื่องแต่เป็นเจ้าหน้าที่ส่วนน้อยจากผู้คุมทั้งหมด ที่มีอยู่กว่า10,000 คน ใน 143เรือนจำ ทั่วประเทศและส่วนใหญ่ทำงานหนักและทุ่มเทและทำงานด้วยความเสี่ยงเนื่องจากต้องดูแลผู้ต้องขังกว่า 350,000 คน หรือผู้คุม 1 คนต้องดูแลผู้ต้องขังถึง 32 คน โดยได้กำชับให้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากพบการกระทำความผิดก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาด  โดยในปีงบประมาณ 2560 ได้มีการลงโทษข้าราชการราชทัณฑ์โดยการไล่ออกจำนวน 20 ราย ส่วนปีงบประมาณ 2561 ซึ่งเพิ่งผ่านมา2เดือนได้ไล่ออกและให้ออกข้าราชการราชทัณฑ์แล้วจำนวน 14 รายและคาดว่าน่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากขณะนี้มีหลายเรือนจำได้รายงานพฤติการณ์การกระทำผิดของเจ้าหน้าที่เข้ามาสู่การพิจารณา

สำหรับความผิดของข้าราชการที่ถูกลงโทษ14 รายครั้งนี้  ประกอบด้วย

1. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันเกินกว่า 15 วัน โดยไม่กลับมา จำนวน 2 ราย ,2.มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากการจับกุมโทรศัพท์มือถือจากผู้ต้องขังแล้วส่งคืน โดยไม่รายงานผู้บังคับบัญชา ,3. ไม่นำเงินผลพลอยได้ฝากเข้าบัญชีธนาคาร 14 ครั้ง เป็นเงิน 601,202 บาท , 4. มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการไม่ตรวจค้นเจ้าหน้าที่เป็นเหตุให้สามารถลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ ,5.ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณ เงินเดือน ค่าตอบแทนพนักงานราชการจำนวน 4,995,037 บาทโดยทุจริต  

6. มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการปล่อยให้ผู้ต้องขังลักลอบจำหน่ายสินค้าในเรือนจำโดยใช้เงินสด 7.มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการจำหน่ายพระเครื่องในเรือนจำ 8.มีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการเก็บส่วยเปิดบ่อนการพนันในเรือนจำ 9.รู้เห็นเป็นใจให้ผู้ต้องขังชายลักลอบเข้าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องขังหญิงในแดนหญิง 10.มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือและยาเสพติดเข้าเรือนจำ 11. นำสุราไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำเพื่อแลกกับเงิน จำนวน 2,000 บาท 12. เรียกรับผล ประโยชน์จากญาติผู้ต้องขัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ 

ส่วนข้าราชการที่ถูกให้ออกจากราชการมี1รายคือประพฤติตนมีมลทินหรือมัวหมองในกรณีที่ถูกสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นและได้ประโยชน์จากการนำเงินสด  แหวนทอง เข้าเรือนจำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล