จรัญชี้แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นควรทำตั้งแต่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ลดความเหลื่อมล้ำ ป้องกันการเมืองครอบงำระบบยุติธรรม


องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จัดงานเสวนาหัวข้อ “ตามหาคน (โกง) หาย” ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวเปิดงานว่า ในระยะหลายปีที่ผ่านมา กระบวนการยุติธรรมถูกตำหนิว่าล่าช้า ซึ่งก็มีความพยายามที่จะปรับปรุงและยกระดับกระบวนการยุติธรรมให้ดำเนินคดีรวดเร็วกว่าที่ผ่านมา แต่กลับพบว่า การดำเนินคดีอาจไม่เข้มข้นเท่าที่ควร เพราะผู้ต้องหาบางรายสามารถหลบหนีไปได้ จึงต้องจัดงานเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

จากนั้น เข้าสู่การเสวนา หัวข้อ “ตามหาคน (โกง) หาย” โดยนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ตนขอตั้งโจทย์สำหรับระบบกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศไทย  โจทย์ข้อแรก ประเทศไทยยังมีช่องโหว่ปล่อยคนชั่วลอยนวลเยอะ จนภาควิชาการตั้งฉายาให้ระบบงานยุติธรรมของไทยว่า เป็นระบบงานยุติธรรมใยแมงมุม ที่ดักจับได้แค่แมลงตัวเล็ก แต่จับแมลงตัวใหญ่ไม่ได้ เหมือนการปล่อยคนชั่วลอยนวล  โจทย์ข้อที่สอง มีการจับตัวผู้บริสุทธิ์มาเอาผิดและลงโทษทางอาญา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลตัวเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถหาพยาน หลักฐานมาพิสูจน์ได้ ส่วนโจทย์ข้อที่สาม คือ ปัญหาอาชญากรในเครื่องแบบ หรือ บุคลากรในระบบงานยุติธรรมที่เกเร แฝงตัว อาศัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายก่ออาชญากรรมโดยไม่ปรากฎให้สังคมรับรู้  ซึ่งปราบปราบบุคคลเหล่านี้อย่างยากลำบาก ทั้งนี้ พบว่า โจทย์หรือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เกิดมาจากความเหลื่อมล้ำในสังคม 


“เราต้องแก้ปัญหาเหล่านี้เพื่อประโยชน์ที่ใหญ่กว่าของคนส่วนใหญ่ในสังคม คนที่ทำผิดต่อบ้านเมือง ควรได้รับการลงโทษลงทัณฑ์ตามความผิดที่ได้กระทำ เพื่อให้สังคมได้รับบทเรียนว่า เราอย่าไปทำอย่างนั้น สังคมจะปลอดภัยขึ้น ขณะที่ผู้กระทำผิดก็จะได้รับการกล่าวเตือนว่า พฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ ถือเป็นการรับโทษในทางมนุษย์ แต่หากบุคคลเหล่านั้น ยังกระทำผิดอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้รับการตักเตือน ต่อไปก็ต้องรับโทษจากพระผู้เป็นเจ้า หรือธรรมชาติจะเป็นผู้ลงโทษตัวเขาเสียเอง” นายจรัญ กล่าว

นายจรัญ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการพัฒนากฎหมาย กลไก และเครื่องมือจำนวนมาก จนกระทั่งมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ได้รับการเสริมเขี้ยวเล็บพร้อมปิดช่องว่างทางกฎหมายมามากพอสมควร โดยในเรื่องของการหลบหนี มีการแก้กฎหมายว่า หากจำเลยหลบหนี อายุความต้องหยุดลง และสามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ ดังนั้น หากพิพากษาลงโทษ โทษก็จะติดตัวตลอดชีวิต สำหรับจำเลยที่กระทำผิดแล้วหลบหนีการดำเนินคดี 

“การแก้กฎหมายเช่นนี้ไม่ใช่แนวทางที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะหากกลับมาต่อสู้คดี อายุความก็จะเดินหน้าต่อ และหากวันหนึ่งภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง ไม่ใช้วิธีใต้โต๊ะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกเรเหล่านั้น ก็จะแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน ผู้ใช้อำนาจรัฐต้องเมตตาสังคม มากกว่าเมตตาลูกน้องตัวเอง หากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยุคใดใช้กลไกปกปิดการทำผิด ทุกอย่างจะเละเทะ และไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ เพราะเจ้าหน้าที่กลับกระทำผิดเสียเอง ดังนั้น ยุคใดที่มีนายกรัฐมนตรีใจซื่อมือสะอาด เอาจริงเอาจังกับผู้ร่วมงาน ยุคนั้นประเทศไทยจะดีขึ้นเยอะ เชื่อว่า จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้” นายจรัญ กล่าว


นายจรัญ กล่าวว่า ประเทศไทยมีเครื่องมือดำเนินการสำหรับคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว แต่ในคดีอาญาระดับรองลงมา เมื่อปล่อยคดีให้ล่าช้า พยานหลักฐานก็มักจะหายไป ดังนั้น จึงต้องการให้ขยายผลกฎหมายในคดีทุจริตให้มาถึงคดีอาญาร้ายแรงอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ ยังต้องการให้กระบวนการยุติธรรมช่วยเหลือด้านพยานหลักฐานในกระบวนการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องสงสัยก่อน ยกเลิกระบบการให้คู่กรณีต่อสู้กันเองในคดีอาญาร้ายแรง ต้องมีระบบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้งสองฝั่งอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดการจับตัวคนบริสุทธิ์มาลงโทษ อีกทั้งการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมก็ต้องมีความเท่าเทียม แก้ปัญหาเหลื่อมล้ำทางฐานะให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องโทษปรับ เสนอให้ยกเลิกการจับขังคุกแทนการจ่ายค่าปรับ แต่เปลี่ยนเป็นการทำงานทดแทนจะดีกว่า เพราะคนยากจนมักไม่มีเงินนำมาจ่ายค่าปรับ และควรมีกรอบเวลาการพิจารณาคดีอาญาในกระบวนการของศาล เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินคดี 

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวว่า ประเทศไทยขณะนี้เริ่มมีพัฒนาการที่สามารถจับผู้ต้องหาที่มีฐานะร่ำรวยเข้าเรือนจำได้ แต่ก็อาจจะมีสิทธิพิเศษในบางเรือนจำที่มีหลายแดน แต่ละแดนจะมีสภาพที่แตกต่างกัน ผู้ที่มีอิทธิพลหรือโด่งดังในสังคมก็อาจจะได้อยู่ในแดนหนึ่งที่ค่อนข้างสบาย หรือบางคนก็ได้อยู่หน้าแดน ไม่ได้ใช้ชีวิตรวมกับนักโทษคนอื่น  นักโทษทั่วไปที่มีปัญหาด้านสุขภาพจะไปรักษาที่สถานพยาบาลในเรือนจำอย่างยากลำบาก เพราะจะมีการจัดคิว แต่ละวันไม่สามารถรักษาได้ครบทุกคน ส่วนโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะอยู่นอกเรือนจำ หากไม่ป่วยหนักจริงก็ไม่สามารถส่งตัวไปรักษาได้ ดังนั้น นักโทษที่ไม่มีอำนาจเงินหรืออิทธิพล จะเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ยาก ส่วนผู้ที่มีอิทธิพลจะมีช่องทางการรักษาพยาบาลได้ง่ายกว่าหรือไม่นั้น ตนก็ไม่แน่ใจ 

ด้านนายนิวัติ แก้วล้วน อดีตเลขาธิการสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า ประเทศไทยมีปัญหาในโครงสร้างระบบยุติธรรม ตั้งแต่ต้นทางในระบบงานสอบสวนที่มีการประเมินหลักประกันในทุกข้อหา ส่วนการทำงานของฝ่ายสอบสวนที่ส่วนมากจะส่งคดีต่ออัยการให้ฟ้องร้องต่อศาล เพราะเป็นขั้นตอนที่ง่ายกว่าไม่ฟ้อง ซึ่งต้องหาเอกสารหลักฐานมากเพื่อตอบคำถามว่าทำไมถึงไม่ฟ้อง และอีกปัญหาสำคัญของกฎหมายไทย เช่น ศาลตัดสินโทษประหารชีวิต แต่กรมราชทัณฑ์ให้จำคุกเพียง 15 ปีแล้วนักโทษนั้นถูกปล่อยตัว  จึงเห็นว่าควรกำหนดโทษให้ชัดเจนกรณีโทษประหารชีวิตหรือติดคุกตลอดชีวิต  โดยให้กำหนดว่า ต้องติดคุกไม่ต่ำกว่า 30 ปี เพราะปัจจุบันนักโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ได้ถูกจองจำสูงสุด 17-20 ปีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นายจรัญ กล่าวทิ้งท้ายในการสัมมนาว่า จะแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้ระบบการเมืองครอบงำกระบวนการยุติธรรม เพราะเมื่อการเมืองแบ่งฝักฝ่าย ก็ต้องสร้างบารมี ซึ่งหากแก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้ จะมีการถอดอำนาจการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นระบบดูแลกันเอง เพื่อไม่ให้อำนาจการเมืองแทรกแซง แต่อำนาจที่มากกว่าการเมือง ก็คืออำนาจเงิน ซึ่งทรงพลัง ซับซ้อนยิ่งกว่า เพราะพบว่า ข้าราชการบางคนเติบโตด้วยการสนับสนุนของเจ้าพ่อหวย เจ้าพ่อการพนัน และเจ้าพ่อซ่อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย