กทม. 7 ธ.ค.-เตรียมจัดงานเทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 9-11 และ 16-17 ธ.ค. 60
พล.ท.หม่อมราชวงศ์ สมชนก กฤดากร ประธานคณะกรรมการจัดงาน เทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ปี 2560 และอดีตนักกีฬาทีมชาติเรือใบ เปิดเผยกำหนดจัดงานเทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจะมีกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม ได้แก่ นิทรรศการพระอัจฉริยะการทรงเรือใบและ การแข่งขันเรือใบบังคับวิทยุ ประเภท IOM (International One Meter class) รายการ 2017 KING REGATTA ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดงานเป็นครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2560 ณ โอเชี่ยนมารีน่า พัทยา จังหวัดชลบุรี และ ระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2560 ณ สวนหลวง ร. 9 เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
สำหรับการจัด “งานเทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงวันที่พระองค์ท่านทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองชนะเลิศในการแข่งขันเรือใบในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อ 16 ธันวาคม 2510 และเหรียญทองดุษฎีกิตติมศักดิ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เมื่อ 14 ธันวาคม 2530 ซึ่งคณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้ส่วนราชการและเอกชนจัดงานเฉลิมพระเกียรติเป็นประจำทุกปีในวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันกีฬาแห่งชาติด้วย
การแข่งขันเรือใบบังคับวิทยุเฉลิมพระเกียรติปีนี้ จะมีเรือใบบังคับฯ ทั้งนักกีฬาไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมการแข่งขันประมาณ 25 ลำ โดยชาวต่างชาติที่จะเข้าร่วมในการแข่งขัน อาทิ สหรัฐ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อิตาลี มาเลเซีย รวมถึงประธานกรรมการแข่งขันและผู้ตัดสินจะมาจากสหรัฐอเมริกา โดยการแข่งขันแบ่งเป็นสองสนาม คือ สนามโอเชี่ยนมารีน่า (สนามในทะเล) ทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2560 และ สนามสวนหลวง ร. 9 (สนามในเมือง) ทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2560 โดยแข่งขันตั้งแต่เวลา 10.00 น.-16.00 น.
ด้าน พล.ร.อ.ยุทธนา ฟักผลงาม เลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันกีฬาเรือใบและเรือใบบังคับวิทยุในประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักกีฬาหน้าใหม่มาร่วมการแล่นใบเรื่อยๆ แม้ว่ากีฬาเรือใบบังคับวิทยุจะเป็นกีฬาใหม่สำหรับคนไทย แต่คณะกรรมการจัดงานฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยทำให้กีฬาเรือใบและกีฬาเรือใบบังคับวิทยุได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย