สำนักงาน ป.ป.ช. 7 ธ.ค.- “ศรีสุวรรณ” ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด “พล.อ.ประวิตร” แจ้งบัญชีเท็จ-ร่ำรวยผิดปกติ ยกคำสัมภาษณ์มัด นาฬิกาหรู-แหวนเพชรเป็นของเดิม ชี้พิรุธแจ้งทรัพย์สิน 4 ครั้ง รวยเพิ่มตลอด ส่องประวัติพบรายได้ไม่สอดรับกับทรัพย์สิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันนี้ จะพิจารณากรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงกลาโหม สวมนาฬิกา “ริชาร์ด มิลด์” RM 029 และแหวนทองคำขาวหัวเพชร ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านบาทในระหว่างถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรีเมื่อเช้าวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยที่ทรัพย์สินดังกล่าวไม่ปรากฎในเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งได้รายงานไว้ต่อ ป.ป.ช. เมื่อครั้งเจ้าตัวรับตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2557 จนถูกวิจารณ์ว่า อาจเข้าข่ายปกปิดหรือแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ซึ่งนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.จะรายงานเรื่องนี้ต่อที่ประชุมด้วย เนื่องจากเป็นกรณีที่สังคมให้ความสนใจ
และเมื่อเวลา 10.30 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเรื่องผ่านนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและยื่นฟ้องเป็นคดีฐานจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. หรือจงใจยื่นบัญชีฯ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ เนื่องจากพล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ระบุว่า “แหวนทองคำขาวหัวเพชรเป็นของเดิมที่เคยใส่มาอยู่แล้ว นาฬิกาก็ของเดิม” เป็นการยอมรับและชี้ให้เห็นว่านาฬิกาและแหวนเพชรดังกล่าวไม่ใช่ของใหม่ แต่กลับไม่ปรากฏในรายการที่แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. และเห็นว่ามีประเด็นที่อาจเข้าข่าย “การร่ำรวยผิดปกติ” ตามมาตรา 66 อีกด้วยเนื่องจากตามเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพล.อ.ประวิตรได้รายงานไว้ต่อ ป.ป.ช. นั้น มีบัญชีเงินฝากในธนาคารมากถึงกว่า 53 ล้านบาท รวมทรัพย์สินอื่น ๆ แล้วมีมูลค่ามากกว่า 87 ล้านบาท โดยไม่ปรากฏที่มาของเงินในบัญชีธนาคารและทรัพย์สินอื่น ๆ
“หากประมาณการจากการที่พล.อ.ประวิตรรับราชการทหารมาประมาณ 40 ปี เป็นนักการเมืองมา 2 สมัยและไม่ได้มีธุรกิจใด ๆ เลยนั้นก็ไม่น่าที่จะมีรายได้มากมายถึงขนาดนี้ อีกทั้งมีพิรุธจากการยื่นบัญชีทรัพย์สินรวม 4 ครั้ง ตั้งแต่ครั้งรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อพ้นจากตำแหน่ง เมื่อพ้นจากตำแหน่งหนึ่งปี และยื่นล่าสุดในรัฐบาล คสช. ปรากฏว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นตามลำดับคือ ครั้งแรก 56 ล้าน ต่อมาเพิ่มเป็น 69 ล้าน 79 ล้านและ 87 ล้านตามลำดับ” นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขอให้ป.ป.ช.ทำการไต่สวนและหากพบความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด เช่นเดียวกันกับหลาย ๆ กรณีที่ ป.ป.ช.เคยวางบรรทัดฐานมาแล้ว เช่น กรณีคดีซุกหุ้นนายทักษิณ ชินวัตร คดีเงินกู้ 45 ล้านบาท ของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นต้น ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ ป.ป.ช.ด้วยว่ามีศักยภาพหรือไม่.-สำนักข่าวไทย