หนุนระยองเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ

ระยอง 5 ธ.ค. – สมาคมเพื่อนชุมชนก้าวสู่ปีที่ 8 ชูแผนปี 61 ยกระดับเป็นศูนย์การเรียนรู้ มั่นใจเดินหน้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศปี 62 หนุนจังหวัดระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 1 ใน 15 จังหวัดนำร่องของประเทศตามนโยบายรัฐบาล 


นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช นายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยในงานแถลงข่าว “สมาคมเพื่อนชุมชนก้าวสู่ปีที่ 8” ว่า ผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาสมาคมฯ มีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์เข้าสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศปี 2562 ปัจจุบันดำเนินงานผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะการดำเนินงานให้โรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิกต้องปฏิบัติตามเกณฑ์โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งขณะนี้ผ่านการรับรองแล้วเกือบร้อยละ 100 และคาดว่าปี 2561 จะผ่านการรับรองทั้งหมด 76 โรงงาน ถือเป็นแนวทางที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งจะเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนไปสู่การสร้างภาคีเครือข่ายทุกมิติ ทั้งส่วนของเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ชุมชนเชิงนิเวศ โรงเรียนเชิงนิเวศ และวัดเชิงนิเวศ

“การผลักดันให้เกิดโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Factory เป็นโครงการที่สมาคมฯ มองว่าสามารถตอบโจทย์หลายมิติของเศรษฐกิจ ทั้งมิติพลังงาน สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตทางสังคมให้กับประชาชน โดยนำโครงการเพื่อนช่วยเพื่อนเข้าไปถ่ายทอดและเกิดการพัฒนาพร้อมกันระหว่างชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนตามแนวทางของรัฐบาลที่มีเป้าหมายในขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะ 20 ปีข้างหน้า ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0″ นายสมชายกล่าว


สำหรับเป้าหมายของแผนการดำเนินงานปี 2561 ในส่วนของการเชื่อมโยงที่จะมุ่งสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสมบรูณ์แบบนั้น สมาคมฯ ได้จัดทำโครงการวิจัยการประเมินผลตอบแทนทางสังคมแบบชุมชนมีส่วนร่วมของการพัฒนาชุมชนเชิงนิเวศต้นแบบ กรณีศึกษาชุมชนเกาะกก โดยร่วมมือกับคณะบัญชี มหาวิทยาลัยรังสิต ลงพื้นที่เพื่อทำการศึกษาและวิจัยการประเมินผลและแนวทางการพิจารณาโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องของชุมชนอย่างแท้จริง ดังนั้นจำเป็นต้องสร้างรูปแบบและแนวทาง เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม และการนำความคิดเห็นของชุมชน มาสู่แนวทางการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน ระยะต่อไปจะยกระดับสมาคมฯ ให้เป็น ศูนย์การเรียนรู้ เพื่อขยายเครือข่าย ไปยังชุมชนอื่น ๆ ในจังหวัดระยองและพื้นที่อื่น ๆ ที่จะพร้อมพัฒนาไปสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และสมาคมฯ จะเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าไปเชื่อมโยงการดำเนินงานผลักดันให้ระยองเป็น 1 ในจังหวัดที่จะขับเคลื่อนเป็นเมืองสีเขียวตามนโยบายของรัฐบาล

สำหรับแผนการดำเนินงานด้านการสนับสนุนโครงการทางด้านสิ่งแวดล้อมความปลอดภัย สาธารณสุข การศึกษา การยกระดับคุณภาพชีวิตปี 2561 สมาคมฯ เตรียมที่จะดำเนินโครงการต่อเนื่องที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสอดรับกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยแบ่งเป็นโครงการด้านการศึกษา โครงการด้านสาธารณสุข และโครงการด้านสังคม

ทั้งนี้ โครงการด้านการศึกษา สมาคมฯ มีนโยบายที่ต้องการส่งเสริมการเพิ่มทักษะให้กับเยาวชนในท้องถิ่น การเรียนรู้ที่เทียบเท่ากับ สถาบันการศึกษาในส่วนกลาง โดยมีโครงการเพื่อนชุมชนติวเตอร์ การมอบทุนปริญญาต่อเนื่องให้กับนักศึกษาที่ไม่มีทุนการศึกษา โดยทั้ง 2 โครงการยังคงดำเนินการต่อเนื่องปี 2561 ขณะเดียวกันสมาคมฯ เห็นความสำคัญการเพิ่มจำนวนบุคลากรสายอาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ได้ดำเนิน โครงการ ส่งเสริมเยาวชนในการศึกษาต่อสายอาชีพ พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้ข้อมูลแนะแนวทางการศึกษาแก่เยาวชนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพครูแนะแนว  ซึ่งเริ่มต้นปี 2560 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและเตรียมพร้อมขยายดำเนินต่อเนื่องในปี 2561


โครงการด้านการดูแลสุขอนามัยของชุมชนรอบพื้นที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โครงการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ โครงการการมอบทุนพยาบาล 440 ทุนซึ่งจะส่งมอบพยาบาลเข้าประจำการในโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่จะครบตามจำนวนทุนปี 2563 นอกจากนี้ ยังมีโครงการต่อเนื่องในการสร้างเครือข่ายนักเรียนทุนพยาบาลโดยให้พยาบาล ที่ได้รับทุนของสมาคมฯ เข้ามาร่วมโครงการเป็นจิตอาสาเข้าไปดูด้านสุขอนามัยให้กับ ชุมชนรอบพื้นที่โรงพยาบาลที่น้องๆทุนพยาบาลเพื่อนชุมชนปฏิบัติงานอยู่ ขณะเดียวกันยังมีโครงการ ยกระดับศักยภาพบุคลากร อสม. ในเรื่องการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น และการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์พื้นฐาน ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และอสม. เพื่อการเฝ้าระวังสุขอนามัยให้กับทุกชุมชน

โครงการยกระดับทางสังคม สมาคมฯ เข้าไปมีส่วนสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทาง การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยในปี 2561 จะดำเนินโครงการเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนในพื้นที่เทศบาลตำบลเนินพระ และการเข้าไปสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนในโครงการส่งเสริมและขยายผลการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนต้นแบบ ตามหลัก ธรรมศาสตร์โมเดล รุ่นที่ 1-2 โดยขยายผลไปสู่รุ่นที่ 3 และสร้างเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการดำเนินโครงการวัดเชิงนิเวศ โดยทำเป็นต้นแบบเพื่อขยายผลไปยังศาสนสถานอื่น ๆ ต่อไป

ทั้งนี้ สมาคมเพื่อนชุมชนเกิดจากการก่อตั้งของ 5 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมครั้งแรกในประเทศไทยที่มีความตั้งใจและจริงใจในการดูแลพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นแก้ปัญหาร่วมกัน ด้วยการถ่ายทอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และตรวจสอบดูแลกันเองโดยมุ่งหวังให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน  ปัจจุบันมีสมาชิกสมทบ 13 บริษัท  ส่งผลให้สมาคมฯ มีสมาชิกรวม 18 บริษัท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน. นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้

ศาล รธน. 13 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้ เปิดให้เจ้าตัวเข้าไต่สวนพร้อมเลขาฯ สมช. 21 ส.ค. ไม่มาถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวยอมรับว่า เป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จฮุน เซน จริง แม้ น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า น.ส.แพทองธาร แสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการ รวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 […]

ทบ.แจงปมขอรับบริจาคลวดหนาม จำเป็นต้องใช้เร่งด่วน

กองทัพบก 13 ส.ค.- โฆษก ทบ. แจงกองทัพภาค 2 ขอรับบริจาค “ลวดหนามหีบเพลง” เหตุจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยกำลังพล สกัดการลักลอบเข้าพื้นที่ของทหารกัมพูชา ชี้หากรอกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ใช้เวลา 1 เดือน ย้ำรัฐบาล-กองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน และให้มาขอกับรัฐบาลว่า ยืนยันรัฐบาลและกองทัพมีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน “การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่วิธีจัดหาใช้แบบพิเศษได้ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญ กรณีลวดหีบเพลงสเปกที่ทหารใช้ ไม่มีในท้องตลาดต้องสั่งผลิตจึงใช้เวลานานขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ งบประมาณมีอย่างเพียงพอ มีแค่เรื่องเวลา” โฆษก ทบ. กล่าวและว่า […]

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]