ระยอง 5 ธ.ค. – สมาคมเพื่อนชุมชนก้าวสู่ปีที่ 8 ชูแผนปี 61 ยกระดับเป็นศูนย์การเรียนรู้ มั่นใจเดินหน้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศปี 62 หนุนจังหวัดระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 1 ใน 15 จังหวัดนำร่องของประเทศตามนโยบายรัฐบาล
นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช นายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยในงานแถลงข่าว “สมาคมเพื่อนชุมชนก้าวสู่ปีที่ 8” ว่า ผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาสมาคมฯ มีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์เข้าสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศปี 2562 ปัจจุบันดำเนินงานผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะการดำเนินงานให้โรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นสมาชิกต้องปฏิบัติตามเกณฑ์โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งขณะนี้ผ่านการรับรองแล้วเกือบร้อยละ 100 และคาดว่าปี 2561 จะผ่านการรับรองทั้งหมด 76 โรงงาน ถือเป็นแนวทางที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งจะเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนไปสู่การสร้างภาคีเครือข่ายทุกมิติ ทั้งส่วนของเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ชุมชนเชิงนิเวศ โรงเรียนเชิงนิเวศ และวัดเชิงนิเวศ
“การผลักดันให้เกิดโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Factory เป็นโครงการที่สมาคมฯ มองว่าสามารถตอบโจทย์หลายมิติของเศรษฐกิจ ทั้งมิติพลังงาน สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตทางสังคมให้กับประชาชน โดยนำโครงการเพื่อนช่วยเพื่อนเข้าไปถ่ายทอดและเกิดการพัฒนาพร้อมกันระหว่างชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนตามแนวทางของรัฐบาลที่มีเป้าหมายในขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะ 20 ปีข้างหน้า ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0″ นายสมชายกล่าว
สำหรับเป้าหมายของแผนการดำเนินงานปี 2561 ในส่วนของการเชื่อมโยงที่จะมุ่งสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสมบรูณ์แบบนั้น สมาคมฯ ได้จัดทำโครงการวิจัยการประเมินผลตอบแทนทางสังคมแบบชุมชนมีส่วนร่วมของการพัฒนาชุมชนเชิงนิเวศต้นแบบ กรณีศึกษาชุมชนเกาะกก โดยร่วมมือกับคณะบัญชี มหาวิทยาลัยรังสิต ลงพื้นที่เพื่อทำการศึกษาและวิจัยการประเมินผลและแนวทางการพิจารณาโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องของชุมชนอย่างแท้จริง ดังนั้นจำเป็นต้องสร้างรูปแบบและแนวทาง เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม และการนำความคิดเห็นของชุมชน มาสู่แนวทางการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน ระยะต่อไปจะยกระดับสมาคมฯ ให้เป็น ศูนย์การเรียนรู้ เพื่อขยายเครือข่าย ไปยังชุมชนอื่น ๆ ในจังหวัดระยองและพื้นที่อื่น ๆ ที่จะพร้อมพัฒนาไปสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และสมาคมฯ จะเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าไปเชื่อมโยงการดำเนินงานผลักดันให้ระยองเป็น 1 ในจังหวัดที่จะขับเคลื่อนเป็นเมืองสีเขียวตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับแผนการดำเนินงานด้านการสนับสนุนโครงการทางด้านสิ่งแวดล้อมความปลอดภัย สาธารณสุข การศึกษา การยกระดับคุณภาพชีวิตปี 2561 สมาคมฯ เตรียมที่จะดำเนินโครงการต่อเนื่องที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสอดรับกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยแบ่งเป็นโครงการด้านการศึกษา โครงการด้านสาธารณสุข และโครงการด้านสังคม
ทั้งนี้ โครงการด้านการศึกษา สมาคมฯ มีนโยบายที่ต้องการส่งเสริมการเพิ่มทักษะให้กับเยาวชนในท้องถิ่น การเรียนรู้ที่เทียบเท่ากับ สถาบันการศึกษาในส่วนกลาง โดยมีโครงการเพื่อนชุมชนติวเตอร์ การมอบทุนปริญญาต่อเนื่องให้กับนักศึกษาที่ไม่มีทุนการศึกษา โดยทั้ง 2 โครงการยังคงดำเนินการต่อเนื่องปี 2561 ขณะเดียวกันสมาคมฯ เห็นความสำคัญการเพิ่มจำนวนบุคลากรสายอาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ได้ดำเนิน โครงการ ส่งเสริมเยาวชนในการศึกษาต่อสายอาชีพ พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้ข้อมูลแนะแนวทางการศึกษาแก่เยาวชนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพครูแนะแนว ซึ่งเริ่มต้นปี 2560 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและเตรียมพร้อมขยายดำเนินต่อเนื่องในปี 2561
โครงการด้านการดูแลสุขอนามัยของชุมชนรอบพื้นที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โครงการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ โครงการการมอบทุนพยาบาล 440 ทุนซึ่งจะส่งมอบพยาบาลเข้าประจำการในโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่จะครบตามจำนวนทุนปี 2563 นอกจากนี้ ยังมีโครงการต่อเนื่องในการสร้างเครือข่ายนักเรียนทุนพยาบาลโดยให้พยาบาล ที่ได้รับทุนของสมาคมฯ เข้ามาร่วมโครงการเป็นจิตอาสาเข้าไปดูด้านสุขอนามัยให้กับ ชุมชนรอบพื้นที่โรงพยาบาลที่น้องๆทุนพยาบาลเพื่อนชุมชนปฏิบัติงานอยู่ ขณะเดียวกันยังมีโครงการ ยกระดับศักยภาพบุคลากร อสม. ในเรื่องการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น และการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์พื้นฐาน ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และอสม. เพื่อการเฝ้าระวังสุขอนามัยให้กับทุกชุมชน
โครงการยกระดับทางสังคม สมาคมฯ เข้าไปมีส่วนสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทาง การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยในปี 2561 จะดำเนินโครงการเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนในพื้นที่เทศบาลตำบลเนินพระ และการเข้าไปสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนในโครงการส่งเสริมและขยายผลการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนต้นแบบ ตามหลัก ธรรมศาสตร์โมเดล รุ่นที่ 1-2 โดยขยายผลไปสู่รุ่นที่ 3 และสร้างเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการดำเนินโครงการวัดเชิงนิเวศ โดยทำเป็นต้นแบบเพื่อขยายผลไปยังศาสนสถานอื่น ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ สมาคมเพื่อนชุมชนเกิดจากการก่อตั้งของ 5 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมครั้งแรกในประเทศไทยที่มีความตั้งใจและจริงใจในการดูแลพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นแก้ปัญหาร่วมกัน ด้วยการถ่ายทอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และตรวจสอบดูแลกันเองโดยมุ่งหวังให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีสมาชิกสมทบ 13 บริษัท ส่งผลให้สมาคมฯ มีสมาชิกรวม 18 บริษัท.-สำนักข่าวไทย