พัทลุง 1 ธ.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุงยังคงวิกฤติโดยเฉพาะพื้นที่ริมทะเลสาบ อำเภอควนขนุนซึ่งขณะนี้ได้มีการอพยพประชาชนแล้วกว่า 100 คน
เมื่อวานนี้น้ำในทะเลสาบ สงขลาในพื้นที่หมู่เจ็ดบ้านหัวป่าเขียวตำบลทะเลน้อยอำเภอควนขนุนจังหวัดพัทลุงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ต้องมีการอพยพชาวบ้านในพื้นที่ 38 ครัวเรือนมายังอาคารศิลปชีพบ้านหัวป่าเขียว และพื้นที่วัดใกล้เคียงรวม 111 คน
โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมานายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ุ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและสอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรไปมาและอพยพสัตว์เลี้ยงมาอยู่บนที่สูง โดยระดับน้ำในพื้นที่ทะเลน้อยยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงเปิดเผยว่าได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมและออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินและประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทั้ง 11 อำเภอ 65 ตำบล 651 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 19 ชุมชน เบื้องต้นมีประชาชนได้รับ ผลกระทบแล้วกว่า 120,000 คน
สำหรับพื้นที่บริเวณที่ริมทะเลสาบสงขลาทั้ง อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอเมือง อำเภอบางแก้ว และอำเภอปากพะยูน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำ และขณะนี้ต้องเจอกับสภาพปัญหาน้ำทะเลหนุนทำให้ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 2 เมตร หมู่บ้านที่ติดริมทะเลสาบกว่า 60 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากปริมาณน้ำที่มากและน้ำทางตอนเหนือ ของจังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราชรวมทั้งสงขลาจะไหลลงมาสมทบอีก ทำให้คาดว่าจะมีน้ำขังอยู่ในพื้นที่นานกว่าสองสัปดาห์ ส่งผลให้ชาวบ้านบางส่วนเริ่มกังวลว่าจะมีผลกระทบกับควายน้ำซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจและสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดพัทลุง.-สำนักข่าวไทย