ทำเนียบฯ 1 ธ.ค. – “กอบศักดิ์” เข้าทำงานทำเนียบฯ วันแรก ไม่ตื่นเต้น เชื่อ ได้รับมอบหมายให้ดูงานเศรษฐกิจ พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสมาปฏิบัติในการทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี จากการปรับคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 5” เดินทางเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาล วันแรก ภายหลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) โดยเข้าสักการะพระพรหมและศาลพระภูมิ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
นายกอบศักดิ์ เปิดเผยว่า ไม่หนักใจในการทำงานเพราะทำงานด้านนี้อยู่แล้ว และมองเป็นความท้าทาย ที่ต้องทำงานให้สำเร็จในช่วงเวลาสั้นๆ ภายใน 1 ปี และว่า มีทีมงานที่ดีอยู่แล้ว เชื่อว่า ทุกคนจะช่วยกันทำให้ปีนี้เป็นปีที่สำคัญในการทำเรื่องปฏิรูปให้พี่น้องประชาชน
สำหรับจะดูแลงานด้านใดนั้น นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้มอบหมาย แต่คิดว่าคงจะมอบหมายงานด้านเศรษฐกิจบางส่วนให้ดูแล อาทิ งานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งมีหลายอย่างที่จะช่วยได้ในด้านเศรษฐกิจ ไม่หนักใจ เพราะขณะนี้มีข้อเสนอและแผนรองรับในเรื่องการปฏิรูปเศรษฐิจทั้งหมดแล้ว ที่เหลือเพียงการขับเคลื่อนที่แท้จริงเท่านั้น.
“ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ครั้งนี้ เนื่องจากทำงานที่ทำเนียบฯ มา 2 ปี แล้ว และจะใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนงานให้ดีขึ้นจากเดิม คิดว่าพี่น้องประชาชนกำลังรอให้ดูแลในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาคนยากจนที่อยู่ฐานราก รวมถึง การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสำหรับลูกหลานของเรา ซึ่งจะใช้เวลา 1 ปี ทำงานในเรื่องนี้อย่างเต็มที่” นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนปฏิบัติหน้าที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระราชดำรัสให้น้อมนำสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงทำเป็นแบบอย่างไว้ไปสู่การปฏิบัติ
“ผมมองว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นกษัตริย์นักพัฒนา และเห็นช่องทางการพัฒนาประเทศไทยอย่างแท้จริง การพัฒนาเราไม่ได้มุ่งเน้นที่ชนบท อย่างแท้จริง มัวมุ่งเน้นที่บริษัทขนาดใหญ่ พื้นที่อุตสาหกรรม การก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเมืองหลวง ทำให้ 30-40 ปีที่ผ่านมา โตเฉพาะกรุงเทพมหานคร ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี ในการน้อมนำพระราชดำรัสในการพัฒนาตามลำดับขั้น สร้างความกินอยู่ที่ดีของประชาชนก่อน จากนั้นจะนำไปสู่การพัฒนาที่แท้จริงต่อไป” นายกอบศักดิ์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย