สำนักงานกกต. 28 พ.ย.-สมชัยเผยสำนักทะเบียนราษฎร์พร้อมร่วมมือให้พรรคการเมืองตรวจสอบข้อมูลสมาชิกพรรค เตรียมส่งหนังสือถึงกฤษฎีกาเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนแก้กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการปฏิบัติของพรรคการเมืองในการแจ้งปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกพรรคตามพระรราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า เจ้าหน้าที่กกต.ได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งทางสำนักงานทะเบียนราษฎร์ยินดีช่วยตรวจสอบและอัพเดทข้อมูลสมาชิกของพรรคการเมืองเรื่องการยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และเปลี่ยนที่อยู่หรือไม่ ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ เป็นสิ่งที่พรรคการเมืองต้องสำรวจเอง
นายสมชัย กล่าวว่า กกต.ได้ให้นโยบายกับสำนักงานกกต.ว่าหลังระเบียบและประกาศ กกต. ที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับในช่วง 2-3 วันนี้ กกต.ต้องอำนวยความสะดวกให้พรรคการเมือง ภารกิจแรกคือการปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกพรรค ซึ่งในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ พรรคการเมืองสามารถรับซีดีฐานข้อมูลและคู่มือแนวทางการปฏิบัติได้ พรรคการเมืองสามารถปรับปรุงฐานข้อมูลได้ทันที ซึ่งพรรคขนาดกลางน่าจะทำได้เสร็จทันตามกรอบเวลา 90 วัน
“แม้พรรคการเมืองจะทำเสร็จก็ต้องประชุมเพื่อรับรอง ถ้ายังไม่ปลดล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ก็ส่งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองไม่ได้ ต้องขอขยายเวลามา ถ้าไม่ขยายและครบกำหนด กกต.ต้องสั่งให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพไป แต่ถ้าถามว่าคสช.ควรปลดล็อคเมื่อใด กกต.ไม่ก้าวล่วงและไม่กดดัน การดำเนินการเป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเป็นผู้ประเมินสถานการณ์เอง เรามีหน้าที่เพียงชี้ให้เห็นผลกระทบที่จะตามมาเท่านั้น” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า การประชุมกกต.วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ประชุมได้รับทราบหนังสือของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ขอให้กกต.ส่งผู้แทนไปร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.รป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จึงมอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานไปทำหน้าที่ โดยที่ประชุมไม่ได้พูดคุยว่าร่างกฎหมายทั้งสองฉบับมีเนื้อหาจำเป็นที่กกต.จะโต้แย้งหรือไม่ และเนื้อหาของร่างที่ศึกษาพบว่าเป็นเรื่องของการออกแบบที่ทำให้ปฏิบัติได้ยากเท่านั้น จึงคงไม่แย้งอะไร
นายสมชัย กล่าวว่า วันนี้(28 พ.ย.) ที่ประชุมกกต.ได้พิจารณาหนังสือของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ส่งร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับมาขอความเห็น ซึ่งถือว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้งส.ส. แต่ร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับมีเกี่ยวข้องกับกกต.เพียงฉบับเดียว คือร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยพบว่าตัวร่างที่สำนักงานกฤษฎีกาส่งมาแก้ไขเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้สมัครับเลือกตั้ง ซึ่งกกต.เห็นว่าควรแก้ทั้งฉบับเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.และรัฐธรรมนูญ รวมทั้งควรปรับปรุงรายละเอียดเกี่ยวกับกลไกการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรมด้วย
“การทุจริตเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมาหลายครั้งเกิดจากกฎหมายเปิดช่องว่าง เมื่อมีโอกาสแก้ไขก็ควรปิดช่องโหว่นี้ จึงเห็นว่าร่างที่สำนักงานกฤษฎีกาส่งมายังไม่เพียงพอ หากนำไปใช้เลือกตั้งก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะปัญหาการทุจริตจะเหมือนเดิม ดั้งนั้น ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ กกต.จะมีหนังสือตอบกลับไปพร้อมกับระบุเหตุผลว่าจะต้องประชุมร่วมกันระหว่างกกต.กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาว่ามีจุดใดที่ต้องแก้ไขและจะแก้ไขอย่างไร และเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานมากกต.ก็พร้อมจะประชุมโดยเร็ว” นายสมชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ร่างที่กฤษฎีกาส่งมามองได้หรือไม่ว่ารัฐบาลไม่ได้อยากจะเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนจริง ๆ นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คิวของการพิจารณากฎหมาย ขณะนี้ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. เข้าสู่สภาแล้ว แต่รถไฟขบวนท้องถิ่นยังไม่ออกจากสถานีเลย ถ้าเปรียบแล้วก็เหมือนยังจัดโบกี้อยู่เลยว่าใครจะนั่งตู้ไหน จัดเสบียงอาหาร กันอยู่ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร อาจจะออกจากสถานีอย่างช้า 1-2 เดือน แต่ก็ไม่แน่ว่าเป็นรถด่วนขบวนพิเศษหรือเปล่า ออกจากสถานีแล้วอาจจะวิ่งแซงหน้ารถไฟสองขบวนก็ได้.- สำนักข่าวไทย
