จ.สงขลา 28 พ.ย.-นายกฯแจงเหตุเสียงดังใส่ชาวประมงวานนี้ ย้ำต้องปฏิบัติตามกฎของไอยูยู ให้โอกาสปลาขยายพันธุ์ ชี้ถ้าไม่ทำตามกฎจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณืภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เรื่องการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ว่า ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมสูงและมีศักยภาพ รัฐบาลพยายามเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนา โดย เน้นการสร้างความเชื่อมโยงทางกายภาพทั้งทางถนน รถไฟ ท่าเรือและสนามบิน รวมถึงการค้าการลงทุน อาชีพส่วนใหญ่ของคนใต้คือการทำประมง ดังนั้น ต้องปรับให้สอดคล้องกับไอยูยู ไม่เช่นนั้นเราไม่สามารถตอบคำถามของต่างประเทศได้ว่าจับปลามาจากไหน และหากทำผิดก็จะถูกกีดกันทางการค้า จากอียูและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่
“เมื่อวานจำเป็นต้องเสียงดัง เพราะการพูดจำเป็นต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และคำนึงถึงกฎหมายด้วย การจับสัตว์น้ำ ถ้าไม่มีที่มาที่ไป จะไปขายใครก็ไม่มีใครรับซื้อ หรือถ้าใช้แรงงานผิดกฎหมาย แรงงานเด็กก็ไม่มีใครซื้อเช่นกัน เราต้องกำหนดระยะเวลาการจับสัตว์น้ำ เพื่อปล่อยให้ปลามีโอกาสในการขยายพันธุ์ หากจะอ้างว่าขาดทุน เสียหาย แล้วมาพูดจาไม่ดี พูดจารุนแรงกับผมไม่ได้ เพราะประมงพื้นบ้านบอกว่าผลผลิตจากการจับสัตว์นำได้เพิ่มขึ้น ได้ปลาตัวใหญ่ขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการแก้ไขปัญหายางพาราและผลผลิตเกษตรตกต่ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเริ่มที่การแก้ปัญหาการบุรุกพื้นที่ หากนายทุนบุกรุก จะต้องตัดไม้ที่บุกรุกป่าทิ้งทั้งหมด แต่ถ้าประชาชนบุกรุก ต้องหามาตรการเยียวยาดูแล แต่ที่เป็นห่วงคือคนที่เป็นแรงงานรับจ้างกรีดยางที่จะได้รับผลกระทบด้วย ที่รัฐบาลต้องหามาตรการดูแลเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลได้พิจารณาหาที่ดินให้คนเหล่านี้เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าสาธารณะได้ แต่จะไม่มีเอกสารสิทธิให้ รวมถึงจะส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศ 2 แสนตันต่อปี โดยให้องคืการปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) จัดงบประมาณมารับซื้อยางไปใช้ โดยให้เขียนโครงการให้แล้วเสร็จเพื่อให้เกิดการใช้ยางภายใน 4 เดือน.- สำนักข่าวไทย
