เลขาธิการศาลฯเผย เตรียมปฎิรูปศาลทหาร

โรงแรมเดอะ บาซาร์  แบ็งคอก รัชดาภิเษก   26 พ.ย.-เลขาธิการศาลฯเผย เตรียมปฎิรูปศาลทหาร – ตั้งคอร์ท มาร์แชล ล่าพวกหนีคำพิพากษา  – ชี้คดีครูจอมทรัพย์เข้าข่าย เบิกความเท็จ  – อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน


นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นประธานการปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสื่อมวลชนเพื่อการประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม (สศย.)รุ่น1 และมอบใบประกาศเกียติคุณ แก่สื่อมวลชนหลากหลายแขนงที่เข้ารับการอบรม  โดยนายสราวุธ ในฐานะคณะกรรมการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวตอบคำถามถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุถึงการเสียชีวิตน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารว่า ขั้นตอนตั้งเเต่เมื่อเสียชีวิตไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนชันสูตรศพ การทำสำนวนคดีอาญาจนถึงมีคำพิพากษานั้นเป็นอำนาจของหน่วยงานทหารทั้งหมดซึ่งอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมเเละเคลือบเเคลงสงสัยว่าการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมในระบบศาลไม่ว่าจะเป็น ศาลยุติธรรม ,ศาลรัฐธรรมนูญ ,ศาลปกครองเเละศาลทหาร นั้น คณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมก็มีทหารเป็นคณะกรรมการ คือพล.อ.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ ซึ่งก็พูดชัดเจนว่า ในการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้จะรวมถึงศาลทหารด้วย ซึ่งในศาลทหารนั้นมีอยู่ 2 ประเด็นที่ชัดเจน คือเรื่องกำหนดระยะเวลาการพิจารณาคดีจะต้องแล้วเสร็จในระยะเวลาเท่าใดซึ่งจะกำหนดเป็นมาตราฐานในทุกศาล ส่วนประเด็นที่2 คืออำนาจของศาลทหารโดยคณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมก็ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขาฯรวมทั้งกรมพระธรรมนูญศาลทหารไปดูว่าในต่างประเทศเรื่องอำนาจศาลทหารควรจะมีขอบเขตอย่างไรบ้าง 

นายสราวุธ  กล่าวว่าประเด็นเรื่องอำนาจพิจารณาคดีศาลทหารก็เป็นข้อเรียกร้องจากองค์กรระหว่างประเทศกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า คดีลักษณะอย่างไรบ้างที่ควรอยู่ในอำนาจศาลทหารเเละคดีที่เกี่ยวพันกับพลเรือนต้องไปศาลทหารมากน้อยเเค่ไหน ซึ่งเเน่นอนว่าในหลักปัจจุบันนั้น ถ้าทหารกระทำความผิดกับพลเรือนจะต้องขึ้นศาลพลเรือน  จึงมีเเนวคิดต่อไปว่าในบางกรณีที่เป็นทหารล้วนๆ กระทำความผิดเเต่เป็นเรื่องทั่วๆไป เช่น การกระทำความผิดอาชญากรรมที่เป็นคดีอาญาทั่วๆไปที่ไม่เกี่ยวกับวินัยทหารหรือภาวะการสงคราม ควรต้องมาขึ้นศาลพลเรือนหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ทางคณะกรรมการฯก็มีการเสนอเป็นประเด็นไว้ด้วยว่า ควรจะมีการทบทวนปรับปรุงเเก้ไขอย่างไรบ้าง  ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้เเนวทางใด เเต่คณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมกำลังพิจารณาดูอยู่


อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในที่ประชุมของคณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมานั้นทางคณะกรรมการฯได้มีหยิบยกประเด็นเเละเสนอเรื่องอำนาจการพิจารณาคดีของศาลทหารที่จะกำหนดให้คดีที่ทหารกระทำผิดคดีอาญาทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่หรือวินัยในการทหารนั้นจะต้องขึ้นศาลพลเรือนซึ่งก็คือศาลยุติธรรมหรือศาลพลเรือนนั่นเอง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามตัวจำเลยที่หลบหนี คดีไม่ยอมรับโทษตามคำพิพากษาจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร นายสราวุธกล่าวว่า กรณีการติดตามตัวจำเลยที่หลบหนี นั้นเป็นสิ่งที่ถูกตั้งคำถามในสังคมบ่อยครั้ง ซึ่งศาลไม่มีหน้าที่ในการติดตามตัวแต่เป็นหน้าที่ของทางบ้านเมือง ทั้งนี้ในการ เสนอแนวทางปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรมนั้นมีการเสนอให้ตั้งหน่วยงานคอร์ท มาร์แชล ขึ้นมามีหน้าที่ติดตาม จำเลยที่หลบหนีและ ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้พิพากษาในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ทั้งนี้คาดหวังว่า ในอนาคตหากได้รับงบประมาณ ในการจัดตั้งหน่วยคอร์ท มาร์แชล ซึ่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จะเป็นผู้กำกับดูแล และควบคุมการปฏิบัติการ ซึ่งในอนาคตจะช่วยแก้ปัญหาจำเลยหลบหนีคดีได้

ส่วนการรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ครูใน จ.สกลนคร  นายสราวุธ กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือว่า เข้าสู่กระบวนการรื้อฟื้นคดีไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาที่ออกมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิมที่เคยตัดสิน  เพราะศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานที่นำมาไต่สวนนั้นไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ โดยคดีนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ผลออกมาเช่นนี้ ซึ่งคดีต่างๆ ศาลก็ได้พิจารณาทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และหลักความน่าเชื่อถือของพยานและตรรกะความสมเหตุสมผล ขณะที่การทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมเราไม่ขอวิจารณ์กล่าวถึงหน่วยงานอื่น ศาลก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่สุด 


ส่วนที่คำพิพากษาศาลฎีกาได้ระบุถึงขบวนการจ้างคนรับผิดมาอ้างเป็นพยานหลักฐานใหม่ ในคดีนี้ถือเป็นคดีแรกหรือไม่ นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในคดีอื่นๆ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นลักษณะเช่นนี้มาก่อน 

เมื่อถามถึงองค์ประกอบความผิดการเบิกความเท็จหรือให้การเท็จว่า การจะเป็นความผิดนั้นเพียงรู้แค่บางส่วน หรือรับรู้ทั้งหมด เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวถือเป็นความผิดเมื่อเบิกความเท็จข้อสำคัญในคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 

นายสราวุธ ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการอำนวยประโยชน์ให้แก่ประชาชนเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนโดยไม่รอแผนการปฏิรูป  เช่นการแก้ไขปัญหานักโทษล้นเรือนจำเพราะปัจจุบันในเรือนจำมีนักโทษร้อยละ 70-80 ที่มาจากปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังหาทางแก้ไข รวมถึงการนำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบการพิจารณาสำนวนคดี โดยอนาคตจะต้องมีการกำหนดขั้นตอนการทำงานว่าในหน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมจะใช้กรอบเวลาเท่าใดเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้  นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเรื่องการประชุมระบบ Video Conference ซึ่งประหยัดการเดินทางและระบบการยื่นฟ้องแบบ E filing ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ศาลในการยื่นฟ้องยื่นคำร้อง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย