เลขาธิการศาลฯเผย เตรียมปฎิรูปศาลทหาร

โรงแรมเดอะ บาซาร์  แบ็งคอก รัชดาภิเษก   26 พ.ย.-เลขาธิการศาลฯเผย เตรียมปฎิรูปศาลทหาร – ตั้งคอร์ท มาร์แชล ล่าพวกหนีคำพิพากษา  – ชี้คดีครูจอมทรัพย์เข้าข่าย เบิกความเท็จ  – อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน


นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นประธานการปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนาสื่อมวลชนเพื่อการประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม (สศย.)รุ่น1 และมอบใบประกาศเกียติคุณ แก่สื่อมวลชนหลากหลายแขนงที่เข้ารับการอบรม  โดยนายสราวุธ ในฐานะคณะกรรมการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวตอบคำถามถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุถึงการเสียชีวิตน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารว่า ขั้นตอนตั้งเเต่เมื่อเสียชีวิตไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนชันสูตรศพ การทำสำนวนคดีอาญาจนถึงมีคำพิพากษานั้นเป็นอำนาจของหน่วยงานทหารทั้งหมดซึ่งอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมเเละเคลือบเเคลงสงสัยว่าการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมในระบบศาลไม่ว่าจะเป็น ศาลยุติธรรม ,ศาลรัฐธรรมนูญ ,ศาลปกครองเเละศาลทหาร นั้น คณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมก็มีทหารเป็นคณะกรรมการ คือพล.อ.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ ซึ่งก็พูดชัดเจนว่า ในการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้จะรวมถึงศาลทหารด้วย ซึ่งในศาลทหารนั้นมีอยู่ 2 ประเด็นที่ชัดเจน คือเรื่องกำหนดระยะเวลาการพิจารณาคดีจะต้องแล้วเสร็จในระยะเวลาเท่าใดซึ่งจะกำหนดเป็นมาตราฐานในทุกศาล ส่วนประเด็นที่2 คืออำนาจของศาลทหารโดยคณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมก็ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขาฯรวมทั้งกรมพระธรรมนูญศาลทหารไปดูว่าในต่างประเทศเรื่องอำนาจศาลทหารควรจะมีขอบเขตอย่างไรบ้าง 

นายสราวุธ  กล่าวว่าประเด็นเรื่องอำนาจพิจารณาคดีศาลทหารก็เป็นข้อเรียกร้องจากองค์กรระหว่างประเทศกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า คดีลักษณะอย่างไรบ้างที่ควรอยู่ในอำนาจศาลทหารเเละคดีที่เกี่ยวพันกับพลเรือนต้องไปศาลทหารมากน้อยเเค่ไหน ซึ่งเเน่นอนว่าในหลักปัจจุบันนั้น ถ้าทหารกระทำความผิดกับพลเรือนจะต้องขึ้นศาลพลเรือน  จึงมีเเนวคิดต่อไปว่าในบางกรณีที่เป็นทหารล้วนๆ กระทำความผิดเเต่เป็นเรื่องทั่วๆไป เช่น การกระทำความผิดอาชญากรรมที่เป็นคดีอาญาทั่วๆไปที่ไม่เกี่ยวกับวินัยทหารหรือภาวะการสงคราม ควรต้องมาขึ้นศาลพลเรือนหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ทางคณะกรรมการฯก็มีการเสนอเป็นประเด็นไว้ด้วยว่า ควรจะมีการทบทวนปรับปรุงเเก้ไขอย่างไรบ้าง  ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้เเนวทางใด เเต่คณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมกำลังพิจารณาดูอยู่


อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในที่ประชุมของคณะกรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมานั้นทางคณะกรรมการฯได้มีหยิบยกประเด็นเเละเสนอเรื่องอำนาจการพิจารณาคดีของศาลทหารที่จะกำหนดให้คดีที่ทหารกระทำผิดคดีอาญาทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่หรือวินัยในการทหารนั้นจะต้องขึ้นศาลพลเรือนซึ่งก็คือศาลยุติธรรมหรือศาลพลเรือนนั่นเอง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามตัวจำเลยที่หลบหนี คดีไม่ยอมรับโทษตามคำพิพากษาจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร นายสราวุธกล่าวว่า กรณีการติดตามตัวจำเลยที่หลบหนี นั้นเป็นสิ่งที่ถูกตั้งคำถามในสังคมบ่อยครั้ง ซึ่งศาลไม่มีหน้าที่ในการติดตามตัวแต่เป็นหน้าที่ของทางบ้านเมือง ทั้งนี้ในการ เสนอแนวทางปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรมนั้นมีการเสนอให้ตั้งหน่วยงานคอร์ท มาร์แชล ขึ้นมามีหน้าที่ติดตาม จำเลยที่หลบหนีและ ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้พิพากษาในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ทั้งนี้คาดหวังว่า ในอนาคตหากได้รับงบประมาณ ในการจัดตั้งหน่วยคอร์ท มาร์แชล ซึ่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จะเป็นผู้กำกับดูแล และควบคุมการปฏิบัติการ ซึ่งในอนาคตจะช่วยแก้ปัญหาจำเลยหลบหนีคดีได้

ส่วนการรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ครูใน จ.สกลนคร  นายสราวุธ กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือว่า เข้าสู่กระบวนการรื้อฟื้นคดีไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาที่ออกมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิมที่เคยตัดสิน  เพราะศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานที่นำมาไต่สวนนั้นไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ โดยคดีนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ผลออกมาเช่นนี้ ซึ่งคดีต่างๆ ศาลก็ได้พิจารณาทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และหลักความน่าเชื่อถือของพยานและตรรกะความสมเหตุสมผล ขณะที่การทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมเราไม่ขอวิจารณ์กล่าวถึงหน่วยงานอื่น ศาลก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่สุด 


ส่วนที่คำพิพากษาศาลฎีกาได้ระบุถึงขบวนการจ้างคนรับผิดมาอ้างเป็นพยานหลักฐานใหม่ ในคดีนี้ถือเป็นคดีแรกหรือไม่ นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในคดีอื่นๆ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นลักษณะเช่นนี้มาก่อน 

เมื่อถามถึงองค์ประกอบความผิดการเบิกความเท็จหรือให้การเท็จว่า การจะเป็นความผิดนั้นเพียงรู้แค่บางส่วน หรือรับรู้ทั้งหมด เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวถือเป็นความผิดเมื่อเบิกความเท็จข้อสำคัญในคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 

นายสราวุธ ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการอำนวยประโยชน์ให้แก่ประชาชนเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนโดยไม่รอแผนการปฏิรูป  เช่นการแก้ไขปัญหานักโทษล้นเรือนจำเพราะปัจจุบันในเรือนจำมีนักโทษร้อยละ 70-80 ที่มาจากปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังหาทางแก้ไข รวมถึงการนำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบการพิจารณาสำนวนคดี โดยอนาคตจะต้องมีการกำหนดขั้นตอนการทำงานว่าในหน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมจะใช้กรอบเวลาเท่าใดเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้  นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเรื่องการประชุมระบบ Video Conference ซึ่งประหยัดการเดินทางและระบบการยื่นฟ้องแบบ E filing ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ศาลในการยื่นฟ้องยื่นคำร้อง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]