คาดเอฟทีเอไทย-ปากีสถานได้ข้อสรุปกลางปี 61

นนทบุรี 26 พ.ย. – ไทย-ปากีสถานคุยเอฟทีเอชื่นมื่น หวังสรุปผลกลางปี 61 พาณิชย์ปูทางขยายตลาดส่งออกไทยสู่ตลาดใหญ่ 200 ล้านคน   



นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หัวหน้าผู้แทนไทยในการประชุมเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ปากีสถาน ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน 2560 เปิดเผยว่า ผลการเจรจาครั้งนี้มีความคืบหน้าเป็นลำดับหลายประเด็น โดยเน้นการเจรจาเปิดตลาดสินค้าศักยภาพของแต่ละฝ่าย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคการผลิตและภาคธุรกิจอย่างแท้จริง และมีข้อสรุปเพิ่มเกี่ยวกับกระบวนการศุลกากร การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการกำหนดกฎถิ่นกำเนิดรายสินค้า นอกจากนี้ ไทยได้เรียกร้องให้ปากีสถานยกเลิกมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อสินค้าส่งออกของไทย โดยเฉพาะการประเมินราคาศุลกากรของปากีสถานกับสินค้ากระดาษของไทยที่ไม่สอดคล้องกับหลักการระหว่างประเทศ รวมทั้งผลักดันให้ปากีสถานยอมรับมาตรฐานสินค้าฮาลาลของไทย ทั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายมุ่งหวังจะสรุปผลการเจรจาเอฟทีเอไทย-ปากีสถาน ภายในกลางปี 2561


นางอรมน กล่าวว่า ปากีสถานเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้รองจากอินเดีย ปากีสถานเป็นตลาดใหญ่มีประชากรกว่า 200 ล้านคน และมีนโยบายเปิดเสรีมากขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายมองตะวันออกที่ต้องการส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์กับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การจัดทำเอฟทีเอจะช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกและนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะวัตถุดิบจากปากีสถาน ซึ่งยังมีทรัพยากรสมบูรณ์และมีค่าจำนวนมาก ปากีสถานจึงถือเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจสำหรับไทย โดยผู้บริโภคปากีสถานมีมุมมองว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผู้ส่งออกไทยจึงน่าจะมีโอกาสขยายตลาดสู่ปากีสถาน โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยมีศักยภาพทั้งสินค้าเกษตร อาหาร อุตสาหกรรม และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปี 2559 ปากีสถานเป็นคู่ค้าอันดับ 38 ของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวม 1,134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 9.8 การส่งออกไปปากีสถานมีมูลค่า 1,015 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทยจากปากีสถานมีมูลค่า 119  ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปปากีสถาน เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก และสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากปากีสถาน  เช่น เส้นด้าย เส้นใย สัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ปี 2560 (ม.ค.-ต.ค.) มูลค่าการค้ารวมของทั้ง 2 ฝ่ายประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออกไทย-ปากีสถาน 1,185.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการนำเข้าไทย-ปากีสถาน 114.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว