แม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มสูงต่อเนื่อง ที่ลุ่มริมแม่น้ำบางส่วนเริ่มกระทบ

เพชรบุรี 22 พ.ย.-แม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ต่ำกว่าตลิ่งไม่ถึง 30 ซม. และเริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำบางส่วนแล้ว แม้ว่าขณะนี้มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ถูกระบายจากเขื่อนเพชร จะยังเดินทางไม่ถึงตัวเมืองเพชรบุรี 


ตลอดทั้งวันนี้ทหารจาก มทบ.15 เร่งทำคันดินเสริมความแข็งแรงให้ตลิ่งริมแม่น้ำเพชรบุรี ช่วงก่อนถึงสะพานอุรุพงษ์ ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ซึ่งถือเป็นจุดที่มีความอ่อนไหวมากที่สุด รวมเป็นระยะกว่า 180 เมตร หลังระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่งไม่ถึง 30 เซนติเมตร ขณะที่มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ระบายจากเขื่อนเพชรยังเดินทางมาไม่ถึงเขตเมือง โดยปีที่แล้วที่เกิดเหตุน้ำท่วมมีน้ำไหลผ่าน 230 ลูกบากศ์เมตร/วินาที ขณะที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 200 ลูกบากศ์เมตร/วินาที ซึ่งเริ่มเห็นผลกระทบในบางจุดแล้ว เช่น ที่วัดอัมพวันปิยาราม เทศบาลเมืองเพชรบุรีเร่งวางกระสอบทรายเสริมแนวตลิ่งป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม หลังระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีน้ำไหลเข้าพื้นที่วัด แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ยังมีน้ำบางส่วนไหลผ่านแนวกระสอบทราย


ส่วนที่วัดเกาะ วัดเก่าแก่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามวัดอัมพวัน พระสงฆ์และชาวบ้านช่วยกันวางแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำเอ่อเข้าท่วมเช่นกัน ขณะที่บางส่วนเร่งใช้ถังตักน้ำที่ซึมเข้าบริเวณโดยรอบศาลาวัดออกสู่แม่น้ำเพชรบุรี


ด้านชาวบ้านริม ถ.ดำเนินเกษม ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม เร่งก่ออิฐบริเวณหน้าบ้านเป็นกำแพงป้องกันน้ำทะลักเข้าตัวบ้าน พร้อมเตรียมกระสอบทรายวางป้องกันอีกชั้น หลายครอบครัวยกสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง แต่บางบ้านไม่สามารถทำได้ เพราะมีพื้นที่ไม่เพียงพอ เช่น บ้านของนางอรวรรณ บุตรบุราญ จึงต้องก่อกำแพงอิฐป้องกัน โดยก่อขึ้นก่อน 3 ชั้น หากน้ำมามากก็จะต้องก่ออิฐให้สูงขึ้นอีก

รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเพชรบุรีคาดว่า มวลน้ำก้อนใหญ่จากเขื่อนเพชรจะไหลมาถึงกลางดึกคืนนี้  และจะทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชน ซึ่งตลอดทั้งวันได้มีการเสริมกระสอบทราย พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำจำนวน 13 เครื่อง ประจำตามจุดต่างๆ และได้ประสานเครื่องผลักดันน้ำจากกองทัพเรือมาผลักดันน้ำบริเวณสะพานเทศบาล ซึ่งเป็นสะพานสุดท้ายของเทศบาลเมืองเพชรบุรี เพื่อผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด

พร้อมกันนี้เทศบาลเมืองเพชรบุรีเตรียมพื้นที่หอประชุมเทศบาลเมืองเพชรบุรี และหอประชุมโรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก เป็นพื้นที่พักพิงแก่ผู้ประสบอุทกภัย

ล่าสุด เขื่อนเพชรลดปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเหลือ 330 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีที่ไหลผ่านตัวเมืองเพชรบุรีมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย