ผลตรวจ ‘คลินิกตอกเส้น’ ผู้ให้บริการไม่มีใบประกอบวิชาชีพ

สบส.22พ.ย.-กรมสบส.เผยผลตรวจอวตารคลินิกการแพทย์แผนไทย สาขาวัดกู้ขณะตรวจไม่พบผู้ประกอบกิจการ-ให้บริการตอกเส้นโดยผู้ไม่ใช่แพทย์แผนไทย ผิดพ.ร.บ.วิชาชีพ ข้อหาประกอบวิชาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ‘หมอเถื่อน’  


จากกรณีมีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลถึงสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้ง อยู่ในจังหวัดนนทบุรีให้บริการตอกคลายกล้ามเนื้อที่อยู่ชิดกระดูกหรือกล้ามเนื้อที่อยู่ชิดขอบกระดูก เพื่อรักษาโรคปวดหลัง ปวดเอว และหมอนรองกระดูกทับเส้น ซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตอกที่รุนแรงและวิธีรักษาในลักษณะนี้ นั้น นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ว่า เมื่อเย็นวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา กรม สบส.ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากกองกฎหมายร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี นายอำเภอปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบอวตารคลินิกการแพทย์แผนไทย สาขาวัดกู้ 


จากการตรวจสอบพบว่าสถานพยาบาลดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย โดยเปิดให้บริการตอกเส้นที่ชั้น 2 ของสถานพยาบาล ซึ่งขณะที่พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบผู้ให้บริการตอกเส้นจำนวน 5 คนแต่ไม่พบผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการแต่อย่างใด พนักงานเจ้าหน้าที่จึงแสดงตนขอตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยจากผู้ให้บริการทั้ง 5 คน ซึ่งพบว่าทั้ง 5 คน ไม่มีใบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย  ในเบื้องต้นพนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งผู้ให้บริการทั้ง 5 คน รับทราบถึงการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 ข้อหาประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือหมอเถื่อน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


สำหรับเจ้าของกิจการจะถือว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยมิได้จัดให้มีแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ส่วนผู้ดำเนินการจะมีความผิดในข้อหาให้ผู้ที่มิใช่แพทย์แผนไทยมาให้บริการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะมีการเรียกตัวเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนรับบริการรักษาพยาบาล บำบัดรักษาโรคไม่ว่าจะด้วยศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน หรือการแพทย์แผนไทย ขอให้ประชาชนพิจารณาอย่างรอบด้าน อย่าหลงรับบริการเพียงเพราะคำบอกเล่าปากต่อปาก เสียงเล่าลือว่าดี หรือราคาถูก โดยจะต้องเลือกรับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น หากเป็นคลินิกการแพทย์แผนไทยจะต้องแสดงชื่อคลินิกตัวอักษรสีน้ำเงินบนแผ่นป้ายสีขาว พร้อมเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักติดไว้ด้านหน้าคลินิก โดยเลขที่ใบอนุญาตต้องตรงกับใบขออนุญาตเปิดคลินิกที่ติดไว้ในคลินิกให้เห็นได้ชัดเจน มีการแสดงเอกสารชำระค่าธรรมเนียมที่เป็นปีปัจจุบัน และมีการแสดงภาพถ่ายพร้อมเลขที่ใบอนุญาตของผู้ให้บริการที่หน้าห้องตรวจเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพจริง 

ทั้งนี้ หากพบว่าคลินิกใดไม่มีการแสดงหลักฐานข้างต้นหรือแสดงไม่ครบถ้วน ไม่ควรรับบริการและให้แจ้งมาที่กรม สบส.หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18822 หรือ 18618 หรือทางเฟซบุ๊ก:สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. กระทรวงสาธารณสุข ในวันและเวลาราชการ สำหรับส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน