แพทย์เผยนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว

สโมสรกองบัญชาการกองทัพไทย 21 พ.ย.-โรงเรียนเตรียมทหารยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกายหรือซ่อมวินัย “น้องเมย” จนเสียชีวิต ด้านแพทย์เผยพบเซลหัวใจโตผิดปกติ ส่งผลให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน


พล.ต.ณตฐพล บุญงาม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วย พล.ต.กนกพงศ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร( ผบ.รร.ตท.) พ.อ.นพ.การุณย์ สุริยวงศ์พงศา ผู้อำนวยการกองการแพทย์โรงเรียนเตรียมทหาร และ พ.ท.นรุฏฐ์ ทองสอน นายแพทย์กองพยาธิ ศูนย์อำนวยการ รพ.พระมงกุฎเกล้า ร่วมกันแถลงข่าวสาเหตุการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1  

พล.ต.ณตฐพล กล่าวว่า ทางกองบัญชาการกองทัพไทย รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ ถือเป็นลูกหลานคนหนึ่ง ซึ่งการแถลงข่าวในวันนี้ ไม่ได้เป็นการชี้ตอบโต้ใคร


ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร กล่าวว่า รู้สึกเสียใจเช่นกัน หลังเกิดเหตุได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย หรือ ธำรงวินัยทหาร (ซ่อมวินัย) โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม2560 น้องเมยได้ทำกิจกรรมทางทหารตามปกติและมีอาการเป็นลม เพื่อนจึงนำส่งเข้ารับการรักษาที่กองแพทย์ โรงเรียนเตรียมทหาร จนหายเป็นปกติ จากนั้นในช่วงเช้าวันอังคารที่ 17 ตุลาคม วันเกิดเหตุ น้องเมยและเพื่อนได้กลับไปเอาของใช้ส่วนตัวที่กองพันนักเรียนของตนเองและเดินกลับไปยังกองแพทย์อีกครั้ง ระหว่างทางมีอาการเป็นลม เพื่ิอนจึงนำตัวส่งกองแพทย์เพื่อปฐมพยาบาล จนอาการดีขึ้นและสามารถเดินได้ตามปกติ จากนั้นในช่วงบ่ายน้องเมยได้ใช้โทรศัพท์สาธารณะที่กองแพทย์ติดต่อกับครอบครัว และมีอาการหมดสติอีกครั้งในเวลา 15.30 น. เมื่อแพทย์ตรวจดูอาการเห็นว่าไม่ดีขึ้น จึงรีบติดต่อโรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก ในเวลาประมาณ 16.00 น. และพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ก็ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 20.24 น. และเนื่องจากน้องเมย เป็นเด็กหนุ่ม แข็งแรง มีอายุเพียง 19 ปี เข้าข่ายเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงนำร่างส่งตรวจที่สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก ขั้นตอนมาตรฐาน ทั้งนี้ยืนยันว่าก่อนเสียชีวิตไม่มีการทำร้ายร่างกาย ส่วนการซ่อมวินัย ก็ไม่มีการแตะต้องตัว ซึ่งน้องเมยได้ถูกซ่อมวินัยครั้งล่าสุดเมื่อ  3 เดือนที่แล้ว โดยตอนนั้นก็หมดสติ ชีพจรต่ำ จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล และก็หายจนกลับมาเรียนตามปกติ 

พ.อ.นพ.การุณย์ ผู้ชันสูตรศพ กล่าวว่า จากการชันสูตรศพพบว่ากระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 ข้างขวาหัก มีรอยช้ำบริเวณหน้าอกด้านขวาและซีกอกด้านซ้าย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติ แต่ไม่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ จึงจำเป็นต้องเก็บชิ้นส่วนอวัยวะภายในไปตรวจกับกล้องจุลทรรศน์เพิ่มเติม  โดยสุ่มตรวจชิ้นเนื้ออวัยวะไปตรวจประมาณ 1 หัวแม่มือ แต่แพทย์บางคนก็อาจจะเก็บไปครึ่งหนึ่งของอวัยวะนั้นๆ ซึ่งสาเหตุการตายที่ผิดธรรมชาติส่วนใหญ่เกิดจากสมองและหัวใจ แต่ไม่สามารถเก็บชิ้นเนื้อแบบสดได้เพราะสมองมีลักษะคล้ายเต้าหู้ไข่ จึงจำเป็นต้องนำไปฉีดฟอร์มาลีนเพื่อทำเป็นสไลด์ก่อนส่งตรวจในห้องแล็ป นอกจากนี้แพทย์ยังได้เก็บเลือด กระเพาะอาหาร และกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงสุ่มชิ้นส่วนของตับ ไตของน้องเตยไปตรวจหาสารพิษและได้คืนไปแล้ว แต่กระเพาะปัสสาวะมีเล็กมากจนทำให้มองไม่เห็น  ยืนยันว่าตอนนี้เหลือเพียงสมอง หัวใจ และกระเพาะอาหารที่ยังเก็บไว้ในห้องแล็บและได้คุยกับพนักงานสอบสวนผู้ทำคดีว่า หากพนักงานสอบสวนประสานมาทางโรงพยาบาลก็พร้อมจะคืนชิ้นส่วนอวัยวะให้ แต่เพิ่งมีการประสานมาเมื่อเที่ยงวันนี้ ทั้งนี้การทำงานของแพทย์ยึดตามกรอบกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และ 152 คือเมื่อพนักงานสอบสวนติดใจในการตายก็สามารถส่งร่างให้แพทย์พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทำการผ่าพิสูจน์ได้ ส่วนซี่โครงซี่ที่ 4 ที่มีการหักเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากของแข็งไม่มีคมกระแทกซึ่งแพทย์ไม่ได้ตัดประเด็นการทำ CPR ก่อนที่จะส่งตัวมายังโรงพยาบาล และจากการตรวจอย่างละเอียดพบว่ามีเซลหัวใจที่โตผิดปกติ ซึ่งอาการแบบนี้จะพบในคนชราและคนที่มีปัญหาทางหัวใจเป็นส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยพบในเด็กวัยรุ่นอายุ 19 ปี เช่นน้องเมย ซึ่งเซลดังกล่าวจะมีผลต่อการเต้นของหัวใจ เช่น ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ จนทำให้หัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นไปได้ว่าน้องเมยเสียชีวิตอันเนื่องมาจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า