ตัวเลขอุบัติเหตุท้องถนนไทยน่าห่วง อาจขึ้นอันดับ 1 โลก

กรุงเทพฯ 13 พ.ย.-เปิดผลรายงานความปลอดภัยทางถนนปี 2559 ,2560 พบยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้น เกือบ 3,000 ราย นักวิชาการชี้อาจทำให้ไทยขึ้นอันดับ1ของโลกที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด


แผนงานสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัดร่วมกับศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน  เปิดเผยรายงานความปลอดภัยทางถนนปี 2559 , 2560 ซึ่งประเทศไทยได้จัดทำขึ้นเป็นครั้งที่3 พบว่าในปี 2559 มีจำนวน ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 22,356 รายเพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน 2877 ราย (ปี 2558 มีผู้เสียชีวิตจำนวน 19,479 ราย ) พบว่ามีผู้เสียชีวิต จำนวน3ใน4ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย ช่วงวัยที่เสียชีวิตสูงสุดคือวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 15 -29 ปี


นายปรีดา จาตุรพงศ์  อาจารย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของโอกาสการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนขึ้นอยู่กับจังหวัดที่อยู่อาศัยซึ่งเมื่อเทียบอัตราส่วนผู้เสียชีวิตต่อประชากร 100,000 คน พบว่า 6 อันดับจังหวัดเสียชีวิตมากที่สุดอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกทั้งหมด ได้แก่ ระยอง 72 จากประชากรแสนคน สระแก้ว 69 ชลบุรี 58 จันทบุรี 57 นครนายก 56 และปราจีนบุรี 55 เนื่องจากมีการเดินทางมากและมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย


ส่วน 6 อันดับพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร14.30 ยะลา17.2 แม่ฮ่องสอน18.2 สตูล 18.3 อำนาจเจริญ 18.4 และปัตตานี 20 

ส่วนร้อยละ45 ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์มากสุดถึงร้อยละ39  เป็นคนเดินเท้า ร้อยละ 5และคนขี่จักรยานร้อยละ1

จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับผลรายงานความปลอดภัยปี 2557  คือสระแก้ว ลพบุรี นครนายก อ่างทอง และสิงห์บุรี

ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตลดลง 5อันดับแรกได้แก่ ตากชุมพร ปราจีนบุรี นครสวรรค์

นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผอ.ศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลกและ รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากรายงาน เป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าการเสียชีวิตจากภัยบนท้องถนนปี 2559 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งมีแนวโน้มสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น เพราะจำนวนผู้เสียชีวิตถึงกว่า 22,000 คนจากประชากรทั้งประเทศกว่า 60ล้านคนถือเป็นตัวเลขของความสูญเสียที่มากมายมหาศาล ซึ่งยังไม่นับรวมจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและพิการอีกปีละนับล้านๆคน มูลค่าความสูญเสียรวมไม่ต่ำกว่า5แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกส่งต่อไปยังองค์การอนามัยโลก ที่กำลังจัดทำรายงานความปลอดภัยทางถนนของโลกครั้งต่อไป ซึ่งจากตัวเลขการเสียชีวิตจาก3ฐานข้อมูลนี้ใกล้เคียงกับการประมาณการขององค์การอนามัยอนามัยโลก ทำให้น่ากังวลว่าอาจเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูง เป็นอันดับ1 ของโลก จากครั้งที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ในอันดับ2ของโลก 

อย่างไรก็ตามแม้ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนจะมีความพยายามและมีความตื่นตัวในการป้องกันอุบัติเหตุแต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้ตัวเลอุบัติเหตุท้องถนนลดลงได้ เนื่องจากมีปัจจัยที่เป็นปัญหาอุปสรรคสำคัญนั่นคือมีคนทำผิดกฏหมายแต่ไม่ได้ถูกลงโทษจนกลายเป็นเรื่องปกติ วันๆหนึ่งมีจำนวนหลาย สิบล้านคนและเมื่อจะเข้มงวดกวดขันจริงจังก็มักจะถูกต่อต้านรุนแรง รวมทั้งกำลังพลที่จะทำหน้าที่บังคับกฎหมายไม่เพียงพอและไม่มีงบประมาณพอที่จะนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ.-สำนักข่าวไทย

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี

กกต. เผยเลือกตั้งเทศบาล มีคำร้อง 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิด กม.

ประธาน กกต. เผยยอดคำร้อง “เลือกตั้งเทศบาล” เพิ่มเป็น 352 เรื่อง เตือนอย่าทำผิดกฎหมาย พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ คาดรู้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกิน 4 ทุ่ม