นายกรัฐมนตรี ชี้ไทยประสบความสำเร็จในเวทีเอเปก

เวียดนาม 11 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี ชี้ไทยประสบความสำเร็จในเวทีเอเปก ยันไม่มีหารือเรื่องประโยชน์นอกรอบ 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 25 ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่าการประชุมครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเนื่องจากได้มีส่วนร่วมในการกล่าวถ้อยแถลงทุกวาระ ในนามของประเทศไทย และสมาชิกอาเซียน หนึ่งในประเด็นสำคัญ คือ ปฏิญญาโบกอร์ว่าด้วยเจตนารมณ์ร่วมของเอเปก ที่ตั้งเป้าให้มีการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคภายในปี พ.ศ. 2553 สำหรับสมาชิกที่พัฒนาแล้ว และพ.ศ. 2563 สำหรับสมาชิกกำลังพัฒนาที่เหลือ ซึ่งเอเปกมีเวลาอีกเพียง 3 ปีที่จะต้องช่วยกันดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย


ในเรื่องของเศรษฐกิจดิจิทัล ไทยและประเทศสมาชิกมีความห่วงใยร่วมกันว่าอาจจะมีกระแสต่อต้านโลกาภิวัตน์และการค้าเสรีมากขึ้น เพราะบางประเทศอาจไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ทำในวันนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริงได้อย่างไร ซึ่งตนได้พูดในที่ประชุมไปแล้วว่าต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับคนทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายว่ามีความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ และอนาคตอย่างไร อย่างไรก็ตาม มองว่าการตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ FTAAP เป็นสิ่งที่ท้าทายที่จะต้องทำให้สำเร็จ เพราะมีคนบางส่วนไม่เข้าใจมองว่าเป็นการค้าแบบผูกขาด


ส่วนการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำเอเปกกับผู้แทนสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก ภายใต้หัวข้อ “การส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืน ครอบคลุมและมีนวัตกรรม และการส่งเสริมความเป็นสากลของวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมและรายย่อย (MSMEs) ตนได้ชี้แจงถึงนโยบายแนวทางและมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือ ด้วยตั้งงบประมาณไว้ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้เอสเอ็มอี สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นอกจากนี้ ยังส่งเสริมและสร้างองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการด้วย และจำเป็นต้องให้ความรู้ในระบบการศึกษาของประเทศไทยด้วยเพื่อเตรียมพร้อมเยาวชนคนรุ่นใหม่รองรับการขยายตลาดในอนาคต

ส่วนการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับผู้นำอาเซียน ตนได้ชี้แจงให้เห็นว่าประเทศไทยได้มีการเตรียมการอย่างไรบ้างในเรื่องของความเชื่อมโยงด้านดิจิทัล เช่น การขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย การสร้างเคเบิลใต้น้ำ 25,000 กม. เพื่อรองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจำเป็นต้องเชื่อมโยงกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือถึงการเตรียมพร้อมรับมือสังคมผู้สูงวัยด้วย รวมถึงการผลักดันโครงการเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งได้ร่วมกับประเทศเปรูในการจัดทำยุทธศาสตร์ว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมและรายย่อยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยจะมีผลบังคับใช้ในปีนี้ 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการประชุมผู้นำเอเปก ว่า ในช่วงที่ 1 ให้ความสำคัญในการเตรียมพร้อมบุคลากร พัฒนาทุนมนุษย์ รองรับโครงสร้างดิจิตอล ซึ่งไทยได้ชี้แจงว่าปัจจุบันเราได้พัฒนาการศึกษา โดยเฉพาะอาชีวะทั้งชายและหญิงให้สามารถคิดแก้ปัญหาและสร้างสรรค์นวัตกรรม รวมถึงวิจัยและพัฒนา ซึ่งต้องปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาในทุกระดับให้สอดคล้อง รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ที่ไม่อยากให้กังวลเรื่องการจัดเก็บภาษี เพราะหากรายได้ไม่มากพอก็จะได้รับการยกเว้น หากเพียงพอก็จะถูกจัดเก็บเพียงส่วนน้อย แต่สิ่งที่จะได้รับคือการเข้าถึงระบบทุน กู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ได้

ส่วนการประชุมในช่วงที่ 2 พูดถึงการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งไทยก็ได้แสดงจุดยืนในการสนับสนุนเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer พร้อมน้อมนำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยให้สำนักงานอิเล็กทรอนิกส์เริ่มรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ให้มาอยู่ในที่เดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียวกับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย ให้ปรับใช้เทคโนโลยีและเพิ่มมูลค่าในการแข่งขันจนสามารถไปสู่เวทีโลก แต่จะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภูมิภาคและทุกภาคส่วนเพื่อให้สมาชิกเอเปกเติบโตไปพร้อมกัน

นายกฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ทุกประเทศให้เกียรติตน เช่น นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รวมถึงนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และผู้นำประเทศอื่นๆ อีก 20 ประเทศ ซึ่งทุกคนให้เกียรติทักทายพูดคุยด้วยบรรยากาศที่มีมิตรไมตรีและอบอุ่น

“ไม่มีเขา ไม่มีเรา พูดคุยกันได้ในทุกประเด็น บางประเด็นก็พูดกันในห้องประชุม บางประเด็นก็พูดนอกห้องประชุมแต่รับรองว่าไม่มีการตกลงกันในเรื่องผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ขออย่าไปเชื่อฟังคำบิดเบือนต่างๆ ในส่วนของประธานาธิบดีจีน ก็สนิทกันอยู่แล้วเพราะเป็นเอเชียด้วยกัน ในส่วนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งเจอกันที่สหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นโอกาสดีที่การได้พบกันครั้งนี้ทำให้สนิทกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งท่านก็รับฟังในสิ่งที่ผมพูด ผมก็ฟังท่านพูด ถ้อยทีถ้อยอาศัย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่ใช่ผมจะไปตกลงซื้อของขายของเป็นการส่วนตัวเพราะทำไม่ได้เป็นเรื่องของกลไกข้าราชการที่จะต้องทำต่อไปว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ขายหรือไม่ขาย เพราะต้องแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งไทยก็ได้ดุลการค้าจากหลายประเทศ แต่เมื่อพิจารณาแล้วบางครั้งมันก็ไม่พอเพราะมูลค่าสิ่งของที่ขายออกไป เช่น พืชผลทางการเกษตรค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ต้องซื้อ เช่น เทคโนโลยี มีมูลค่าต่างกันมาก เช่น ซื้อโทรศัพท์ 1 เครื่อง จะต้องขายข้าวไปเท่าไหร่ ต้องไปดูเหตุดูผลตรงนี้และสร้างความเข้าใจกับประเทศในทุกประชาคม ไทยต้องให้ความสำคัญกับเกษตรกรและการเกษตรเพราะเราเป็นประเทศเกษตรกรรม ดังนั้น จะต้องพัฒนาไปสู่ประเทศเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มรายได้ มีเม็ดเงินไปซื้อสิ่งของที่มีมูลค่าสูง ซึ่งต้องหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยสามารถอยู่ได้ในยุคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ Thailand 4.0 หรือการปฏิรูปทางเศรษฐกิจครั้งที่ 4” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้หารือทวิภาคีกับนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เพื่อผลักดันกลไกความร่วมมือ การประชุม ครม.ร่วมไทย-เวียดนาม แก้ปัญหาอุปสรรคการค้า และร่วมกันแก้ปัญหา IUU แรงงานผิดกฏหมาย รวมถึงการเชื่อมโยงการคมนาคม 

วันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติดานังเพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 13-14  พ.ย. 2560.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง