“เจษฎ์” เชื่อ คสช. ไม่ตั้งพรรคการเมืองเอง

รัฐสภา 11 พ.ย. – “เจษฎ์” เชื่อ คสช. ไม่ตั้งพรรคการเมืองเอง แต่อาจมีรัฐบาลรูปแบบพรรคการเมืองแฝงในอนาคต จับมือ ส.ว.ชู “พล.อ.ประยุทธ์”  หรือ นายทหารคนอื่นเป็นนายกฯ คนนอก 

นายเจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)กล่าวถึง กระแสการจัดตั้งพรรคทหาร ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเชื่อว่า คสช. ไม่น่าจะตั้งพรรคเอง เพราะมีบทเรียนในอดีต แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า ในอนาคตจะมีการตั้งรัฐบาลในรูปแบบพรรคการเมืองแฝง ที่ไม่ใช่ลักษณะตั้งพรรคทหารใหม่ คือ มีคนเช้าไปแทรกซึมไปอยูในพรรคขนาดกลาง เพราะหากไม่ทำ ก็จะไม่สามารถแฝงตัวใน ส.ส. และไม่สามารถควบคุมสภาล่าง หรือสภาผู้แทนราษฎรได้ หากดำเนินการเช่นนั้น จะทำให้กลไกการขับเคลื่อนต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้ด้วยยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งทหารก็จะไม่เสียกระบวน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจจะได้รับการสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกด้วย  

นายเจษฎ์ กล่าวว่า  แต่เนื่องจากขณะนี้ เป็นช่วงขาลงของ คสช. หากจะลากยาวหลังการเลือกตั้งไปอีก  ก็อาจต้องเปลี่ยนตัว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นทหารคนอื่น เพื่อสามารถขับเคลื่อนกลไกการทำงานจาก คสช. ได้ หรือ ถ้าเป็นนักการเมือง ก็จะต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี ไม่ขัดแย้งกับใคร ประชาชนยอมรับ ส่วน คสช. คนอื่น ๆ ก็อาจร่วมเป็นคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลต่อไป แต่จะต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับ 

“ไม่สามารถยืนยันได้ว่า หากพรรคที่มีทหารสนับสนุนเป็นรัฐบาลในอนาคตจะดีหรือไม่  จะต้องไปรอดูในรายละเอียดการทำงาน และการแก้ปัญหาที่ประชาชนติดตามอยู่ในขณะนี้ เช่น การปฏิรูปตำรวจ การจัดซื้อเรือดำน้ำ หรือโครงการใหญ่ๆ เพราะถ้าไม่สามารถสร้างความชัดเจนได้ การจะเป็นพรรคทหารจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่สามารถอยู่ได้เช่นกัน ที่สำคัญต้องทำหน้าที่ในตอนนี้ให้ดี  เพื่อแสดงให้เห็นว่าหากเป็นพรรคการเมืองในอนาคต จะสามารถทำหน้าที่ได้ดี  เชื่อว่าประชาชนพร้อมจะยอมรับ 

เมื่อถามว่า จะใช้ 6 คำถามของนายกรัฐมนตรี ประเมินความนิยมของรัฐบาลในขณะนี้ได้หรือไม่นั้น นายเจษฎ์ กล่าวว่า ไม่สามารถวัดได้ เพราะคำถาม 6 ข้อของนายกรัฐมนตรี ผ่านกระบวนการคิดน้อยไป โดยเฉพาะข้อ 2 ที่ถามว่า คสช. จะสนับสนุนพรรคการเมืองใดได้หรือไม่ นั่นเหมือนการเป็นกรรมการตัดสินฟุตบอล แล้วจะไปสนับสนุนทีมใดทีมหนึ่ง ซึ่งหากกรรมการออกมาพูดเช่นนี้ จะไม่ได้รับความไว้วางใจ อีกทั้ง ที่ผ่านมา คสช. อ้างตลอดว่า มาเพื่อยุติความขัดแย้ง เป็นกรรมการ เป็นกลาง ยึดประโยชน์บ้านเมือง        .- สำนักข่าวไทย