นักวิชาการเชื่อคดีถือหุ้นสื่อไม่ถึงขั้นยุบพรรคอนาคตใหม่

กรุงเทพฯ 20 พ.ย.- นักวิชาการ มองกรณี ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของ “ธนาธร” สิ้นสุด ไม่ถึงขั้นการยุบพรรค ชี้ต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกันพิจารณา ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ชี้กรณีนี้ไม่ถึงขั้นดึงมวลชนลงถนนได้


นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และอดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) จากกรณีการถือหุ้นสื่อบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ว่า กรณีนี้ไม่ถึงขั้นนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล หากจะขยายผลคงจะไกลเกินไป  ซึ่งหากจะนำไปสู่ การยุบพรรคต้องโยงไป 3 ระดับ คือ ผลจากศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ต้องนำไปสู่ การพิจารณาในมาตรา 151 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกอบกับมาตรา 132  ว่ามีการกระทำที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต โดยตัวนายธนาธร ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังลงรับสมัครเลือกตั้งไปจนถึงกรรมการบริหารพรรค แต่หากจะขยายผลไปก็ค่อนข้างไกล 

”ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องสิ้นสุดเฉพาะตัว  ไม่ถึงขั้นว่ารู้อยู่แล้ว ว่าตนเองขาดคุณสมบัติ และยังลงรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู่โทษทางอาญา และไม่ใช่เรื่องที่กรรมการบริหารพรรค และตัวนายธนาธร รู้อยู่แล้ว จึงตั้งใจทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม คงไม่ไปไกลขนาดนั้น แต่หากเป็นกรณี ที่นายธนาธร ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน ประเด็นนี้อาจนำไปสู่การยุบพรรค เพราะส่วนตัวมองว่าเป็นการใช้เงินผิดประเภท ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ไม่มีข้อกำหนดว่าเป็นเงินบริจาคหรือไม่”นายเจษฎ์ กล่าว


นายเจษฎ์ ยังกล่าวถึงผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการถือครองหุ้นสื่อ ว่า เรื่องนี้ควรจะเป็นบรรทัดฐาน ในการพิจารณาคดีการถือครองหุ้นสื่อของ ส.ส.คนอื่น ๆ ด้วย

ส่วนหลังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะนำไปสู่การดึงมวลชนลงสู่ถนนหรือไม่นั้น นายเจษฎ์ กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นที่จะดึงมวลชนลงถนนได้ แต่อาจจะกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกร่วมของมวลชนได้ เพราะพรรคอนาคตใหม่มีการดำเนินการรวมมวลชนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ยังมีคดีอีกหลายคดี เช่น กรณีที่น่ากังวลคือการให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน ที่อาจจะนำไปสู่การยุบพรรคได้ จุดนี้อาจจะนำพาอารมณ์ของมวลชนลงไปสู่ถนนได้ 

ซึ่งวันนี้เป็นแค่กรณีของนายธนาธร แต่หากวันข้างหน้า เชื่อมโยงเกี่ยวข้องไปถึงนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และนางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ อาจจะกระตุ้นอารมณ์ของคนได้มากขึ้น


ด้านนายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขารัฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยสุโขทัย     ธรรมาธิราช มองว่า กรณีของการถือครองหุ้นสื่อ นายธนาธร อาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 132 ว่ามีการกระทำที่ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม และกรรมการบริหารพรรครับรู้จะนำไปสู่การยุบพรรคได้  แต่ ต้องดูว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง  (กกต.) จะดำเนินการไปถึงโดนศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคหรือไม่  ซึ่งมาตรา 132 ต้องวินิจฉัยโดยละเอียดว่าการกระทำใด คือทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม 

นายยุทธพร กล่าวว่า หากมองว่านายธนาธรเป็นหัวหน้าพรรคหรือเป็นแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรี จะนำมาซึ่งความไม่เสมอภาคในการเลือกตั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยตีความ หรือรวมไปถึงมาตรา 151 เรื่องการดำเนินคดีอาญา ว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะนำไปสู่การร้องศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้มีโทษสูง ถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 20 ปี ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต.ด้วย ทั้งนี้จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นบรรทัดฐานเกี่ยวกับการพิจารณาคดีการถือครองหุ้นสื่อ ของ ส.ส.ที่อยู่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือมีผลผูกพันกับทุกองค์กร

นายยุทธพร มองว่า การเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การชุมนุมตามท้องถนนคงไม่เกิดขึ้นเหมือนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะบริบททางการเมืองเปลี่ยนไป โอกาสจะเป็นการเมืองแบบท้องถนนคงไม่เกิดขึ้นได้ง่าย ส่วนทิศทางของพรรคอนาคตใหม่ยังคงมีโจทก์ต้องแก้ไขปัญหาอีกหลายเรื่อง เพราะมีคดีเกือบ 20 คดี ความเป็นไปได้ที่จะถูกยุบพรรคก็มีเช่นกัน รวมถึงความเสี่ยงที่ นายธนาธร จะถูกดำเนินคดีทางอาญาก็ยังมีอยู่ เพียงแต่คำวินิจฉัยวันนี้อาจเป็นการสร้างทางเลือกให้กับพรรคอนาคตใหม่มากขึ้น ทั้งรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น นายธนาธร สามารถลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต หรือ ลงรับสมัครเลือกตั้งในระดับการเมืองท้องถิ่นเช่น ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร  หรือจะใช้บทบาทการเป็นกรรมาธิการ วิสามัญ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ หรือกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไข รัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]