พิษณุโลก 9 พ.ย.-คนหัวล้านเตรียมเฮ! นักวิจัย ม.นเรศวร ต่อยอดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย “ว่านมหาเมฆ” สู่นวัตกรรมกระตุ้นการเจริญของผม ชี้ 6 เดือนเห็นผล
ที่ศูนย์วิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ อาคารมหาธรรมราชามหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผศ.ดร.พีรธร บุณยรัตพันธุ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย รศ.ดร.เนติ วระนุช นักวิจัย รศ.ดร.กรกนก อิงคนินันท์ นักวิจัย ร่วมกับเปิดงานและแถลงข่าวผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย “ว่านมหาเมฆ” สู่นวัตกรรมกระตุ้นการเจริญของผมสำหรับผู้มีปัญหาผมหลุดร่วงและศีรษะล้าน ส่งผลทำให้มีปัญหากระทบต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจในตนเอง โดยหนึ่งในภาวะผมร่วงที่พบบ่อย
ทั้งนี้คณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร พบว่าสารสกัดจากว่านมหาเมฆ ซึ่งเป็นพืชวงศ์เดียวกับขมิ้นมีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชายทั้งในระดับหลอดทดลอง และสัตว์ทดลองด้วยกลไกลยับยั้งเอนไซม์ไฟว์แอลฟารีดักเทส สารที่ออกฤทธิ์นี้เป็นสารกลุ่ม sesquiterpenes โดยมีสารหลักที่ออกฤทธิ์สูง นอกจากนี้ยังทำการศึกษาความเป็นพิษแล้วพบว่าสารสกัดไม่เกิดพิษทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ทีมวิจัยได้ศึกษาคุณสมบัติทางเคมีและกายภาพของสารสกัด และพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมของผู้มีปัญหาศีรษะล้านจากแอนโดรเจนจากสารสกัดมาตรานี้ ทดสอบความปลอดภัยโดยผลิตภัณฑ์ไม่มีปัญหาด้านการระคายเคืองต่อผิว จากนั้นศึกษาประสิทธิภาพในเชิงคลินิกในอาสาสมัครชาย 87 คน ที่มีภาวะศีรษะล้านในโรงพยาบาลรัฐ 3 แห่ง โดยศึกษาแบบสุ่มเทียบกับยาหลอก และยากระตุ้นการเจริญของผมพบว่าสารสกัดนี้ช่วยเพิ่มการเจริญของผมอย่างมีนัยสำคัญ แสดงถึงศักยภาพในการนำสารสกัดว่านมหาเมฆมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในผลิตภัณฑ์กระตุ้นการเจริญของผม
คณะวิจัยจึงได้จดสิทธิบัตรและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ บริษัท สยามนวัตต จำกัด เพื่อต่อยอดทำการส่งต่อผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภค มีทั้งแชมพูสมุนไพรว่านมหาเมฆ ครีมนวดผมสมุนไพรหว่านมหาเมฆ แฮร์โทนิกสมุนไพรว่านมหาเมฆ เป็นต้น เพื่อต้านศีรษะล้าน ผมร่วง ผมบาง ควบคุมการเจริญของเส้นผม ซึ่งจะเห็นผลอย่างน้อยต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน.-สำนักข่าวไทย