fbpx

ตร.เข้มมาตรการ “3 ห้าม 3 ควร 3 ไม่” คืนลอยกระทง

กรุงเทพฯ 1 พ.ย.- ตำรวจลงพื้นที่ท่าน้ำวัดอรุณฯ ตรวจเข้มเตรียมพร้อมรับเทศกาลลอยกระทง ออกมาตราการ  “3 ห้าม 3 ควร 3 ไม่”  ป้องกันเหตุ   


พล.ต.อ.วิระชัย  ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ท่าน้ำวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ ตรวจความพร้อมตามแผนการรักษาความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยวในเทศกาลลอยกระทง พร้อมกำชับนโยบายการรักษาความปลอดภัยตามมาตรการ “3 ห้าม 3 ควร 3 ไม่” คือ ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอย หลังพบว่าปีที่ผ่านมามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการลักลอบเล่นพลุกว่า 660 คน โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่หรือโดยสารบนรถ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วน 3 ควร คือ ควรระมัดระวังการใช้บริการโป๊ะ ท่าเทียบเรือ โดยเฉพาะในที่ที่มีคนมากๆ ควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกหลอกไปในทางมิชอบ ควรรื่นเริงบนพื้นฐานของการสืบสานประเพณีไทย และ 3 ไม่ คือ ไม่แต่งกายล่อแหลม หรือสวมใส่เครื่องประดับจำนวนมาก ไม่ปล่อยให้เด็กเที่ยวงานตามลำพัง และไม่ควรไปในสถานอโคจร มั่วสุม


โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังฝากประชาสัมพันธ์ว่า ในปีนี้น้ำไหลเชี่ยว เนื่องจากการระบายน้ำจากตอนบนของประเทศ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังการโดยสารด้วยเรือ และให้ท่าเทียบเรือที่เปิดให้ประชาชนลอยกระทงตรวจความพร้อมว่ารองรับนักท่องเที่ยวได้เพียงพอหรือไม่ รวมทั้งให้มีการจัดเจ้าหน้าที่ไว้เพื่อดูแลความปลอดภัย ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หากเกิดอุบัติเหตุ

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ได้เดินรณรงค์แจกเอกสารแนะนำการปฏิบัติแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งเข้มงวดจับกุมเด็กแว้นที่ฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนในช่วงเทศกาล โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกและยึดรถทันที.- สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง