จ.อ่างทอง 30 ต.ค.-นายกฯลงพื้นที่อ่างทองติดตามน้ำท่วม ระบุเป็นงานสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขหลังเสร็จพระรราชพิธีสำคัญ ย้ำพร้อมเยียวยาผู้เดือดร้อนเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะประกอบด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและตรวจเยี่ยมประชาชนที่จังหวัดอ่างทอง โดยเดินทางมาที่โรงเรียนวิเศษไชยชาญ (ตันติวิทยาภูมิ) และนายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองให้การต้อนรับ รายงานสรุปสถานการณ์ภาพรวม ว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำเริ่มทรงและลดลงเล็กน้อยประมาณ 2-3 เซ็นติเมตร คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วันจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับเด็กนักเรียนโรงเรียนวิเศษไชยชาญฯ ที่มารอต้อนรับ ว่า เอากำลัง เอาใจ เอาความห่วงใยมาฝากทุกคน ขอให้ทุกคนรู้ว่ารัฐบาลมีความเป็นห่วง และพร้อมเร่งให้ความข่วยเหลือ
จากนั้นคณะของนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาที่เทศบาลตำบลบางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพพร้อมกล่าวให้กำลังใจกับประชาชนว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยขอให้รัฐบาลจัดทำแผนหลัก แผนรองและแผนเผชิญเหตุรับมือ รวมทั้งฟื้นฟูเยียวยาให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัย ส่วนด้านความช่วยเหลือ เน้นย้ำการดูแลประชาชนให้มากที่สุด เพราะประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยขอให้มองที่ภาพรวมทั้งหมดของประเทศและกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้ทราบถึงเหตุผลและความจำเป็น และใช้วิทยุชุมชนหรือเสียงตามสายทำความเข้าใจ
“บางครั้งจำเป็นต้องระบายน้ำออกมาบ้าง เป็นจังหวะเวลา เพื่อไม่ให้เกิดการอั้นของน้ำแล้วทำให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณประชาชนที่เดือดร้อนเสียสละพื้นที่เก็บกักน้ำ ซึ่งรัฐบาลมีแผนให้ความช่วยเหลือเยียวยาแล้ว และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดหาอาชีพเสริมในช่วงฤดูกาลน้ำท่วมให้ประชาชนเพื่อมีรายได้ด้วย เช่น อาชีพของการประมง กำหนดเป็นโซนนิ่งโดยประสานกับกระทรวงเกษตรฯ อย่าลืมว่าความเดือดร้อนที่เกิดจากอุทกภัยครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 10-29 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่มีทั้งหมดถึง 23 จังหวัด 78 อำเภอ มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 120,000 ครัวเรือน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับปัญหาอุทกภัยในปีนี้ปริมาณน้ำถือว่าใกล้เคียงกับปี 2554 แต่การบริหารจัดการน้ำเป็นไปได้ด้วยดี ทำให้สถานการณ์ไม่รุนแรงเท่ากับปี 2554 ยืนยันว่ารัฐบาลได้แก้ปัญหาอย่างดีที่สุด แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ได้ทำฉาบฉวย และต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ทั่วถึง ส่วนเรื่องการเมืองหรือใครจะพูดอะไรก็ให้เขาว่ากันไป ยืนยันว่าจะแก้ปัญหาของประชาชนอย่างดีที่สุดทั้งระยะสั้นและระยะยาว ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ต้องห่วง รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่
“ผมไม่ได้โทษอะไร เพียงแต่อยากจะบอกว่าประเทศไทยมี 77 จังหวัดเราต้องแก้ปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ยืนยันว่าผมจะดูแลทุกคนอย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ ผู้เดือดร้อนจะต้องได้รับการแก้ไขและเยียวยา ไม่รู้ว่าจะปล่อยข่าวตีกันไปทำไม แต่ผมไม่สนใจ ผมไม่ท้อ ยืนยันว่าผมทนได้ สักวันหนึ่งจะรู้เองว่าเราทำงานอะไรกันไปบ้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านทรงรับสั่งไว้ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงสานต่อ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะทำทุกอย่างเต็มกำลังความสามารถ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทักทายพูดคุยกับประชาชนอย่างเป็นกันเองสอบถามชีวิตความเป็นอยู่และขอให้ทุกคนรับฟังข้อมูลจากรัฐ เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ พร้อมชี้แจงการทำงานและนโยบายของรัฐบาล โดยยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นงานสำคัญเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการเป็นอันดับแรกหลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีสำคัญ และแม้ว่าจะทำให้เหนื่อย แต่ก็จะอดทนทำเพื่อคนไทยทุกคนอย่างเต็มที่
“การลงพื้นที่ครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มาหาเสียง เพราะไม่ใช่นักการเมือง แต่ขอขอบคุณนักการเมืองที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยควบคู่กับการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาล แม้ระหว่างนี้จะไม่ใช่ช่วงที่เปิดโอกาสให้นักการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
