สนามหลวง 27 ต.ค.- ประชาชนส่วนใหญ่ปักหลักรอร่วมพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร 29 ตุลาคม – ยืนยันเดินตามรอยพ่อ
หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ และริ้วขบวนที่ 4 ได้เชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารไปยังพระบรมมหาราชวัง ประชาชนที่มาร่วมพระราชพิธีส่วนหนึ่งก็ยังคงปักหลักค้างคืนบริเวณโดยรอบสนามหลวงเพื่อรอร่วมพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร ณ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคมนี้ เช่น ครอบครัวแก้วปรียากร ที่เดินทางมาต่อคิวเข้าจุดคัดกรองตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้ร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม
นางปัทพร แก้วปรียากร เล่าว่า กว่าจะได้เข้ามาภายในมลฑลพิธีท้องสนามหลวงต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย เปียกฝนถึง 9 รอบ แต่ทุกคนก็ไม่ยอมกลับบ้าน แม้จะอยู่ใกล้แค่พระราม 2 โดยเฉพาะลูกทั้งสองคน คือ ด.ช.สมศักดิ์ อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.ฑิตยา อายุ 9 ขวบ ที่ไม่ว่าฝนตกหนักแค่ไหนก็ไม่ยอมใส่เสื้อกันฝน โดยให้เหตุผลว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 ยังทรงทนได้ และในวันนี้ระหว่างที่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วที่ 4 เคลื่อนผ่านหน้า เธอก็ได้บอกกับพระองค์ว่าจะขอเดินตามรอยพ่อต่อไป ซึ่งวันที่ 29 ก็จะพาครอบครัวมาส่งเสด็จอีกครั้ง
“บอกพ่อหลวงว่าลูกและครอบครัวที่อยู่สุรินทร์เดินทางมาไม่ได้ พี่ชายหนูเสียชีวิตวันเดียวกับพระองค์ หนูเลยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของทุกคนในตระกูลมาส่งเสด็จ ขอสานต่อเจตนารมณ์ เดินตามรอยพ่อ จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดี ดูพ่อหลวงเป็นตัวอย่าง พ่อหลวงเป็นเทวดาเดินดิน ตอนนี้ท่านกลับไปอยู่บนสวรรค์แล้ว ขอสวรรค์รับพ่อหลวงกลับไป ไม่ต้องห่วงพวกเรา เราจะสานต่อ จะเดินตามรอยพ่อ” นางปัทพร พูดทั้งน้ำตา
ด้าน ด.ญ.ฑิตยา หรือ น้องข้าวหอม ก็ร้องไห้ตลอดเวลาที่แม่พูดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 เธอบอกว่า ไม่เหนื่อยที่ต้องตากแดดตากฝนมารอส่งเสด็จตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม วันนี้เห็นริ้วขบวนเชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารไปยังพระบรมมหาราชวัง แล้วรู้สึกเสียใจ รักพระองค์เพราะเห็นพระองค์มาตั้งแต่เล็ก จะตอบแทนพระองค์ด้วยการจะตั้งใจเรียน
ขณะที่ประชาชนคนหนึ่งซึ่งเดินทางมาจาก จ.นครปฐม เพียงลำพัง ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 25 บอกว่า เมื่อวานไม่ได้เข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงภายในสนามหลวง จึงไปถวายดอกไม้จันทน์ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ปากคลองตลาดแทน ตั้งใจจะค้างแรมที่สนามหลวงถึงวันที่ 29 ตุลาคม เพื่อส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้าย ไม่สามารถบอกได้ว่ารักในหลวงรัชกาลที่ 9 มากแค่ไหน แต่ก็คงเท่าคนไทยทุกคน
“ตอนสมัยลุงเป็นวัยรุ่นก็ได้ดูข่าวพระราชสำนัก แต่ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไรมาก แต่พอช่วงที่พระองค์ประชวรหนักก็ได้ติดตามศึกษาพระราชกรณียกิจมากขึ้น ก็เลยรู้ว่าพระองค์ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน เราเป็นแค่เศษเสี้ยวธุลีเล็กๆ เมื่อเกิดมาเป็นคนไทยแล้วก็อยากทำทุกอย่างถวายพระองค์ท่านเท่าที่ทำได้ หลังจากนี้ก็ขอทำสิ่งที่ดี ที่พระองค์ทรงสอนไว้ ไม่เบียดเบียนใคร”
ด้านนางธัญญลักษณ์ อุปรา ซึ่งเดินทางมาจากที่พักย่านพระราม 2 กรุงเทพฯ กล่าวว่า ในวันอาทิตย์นี้จะมาส่งเสด็จ ในหลวง รัชกาลที่ 9 อีกครั้ง ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพระองค์ อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร สัญญาว่าจะสืบสานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตัวในทางที่ดี รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ .-สำนักข่าวไทย