ไทยออยล์ชี้ราคาน้ำมันต่ำกำไรโรงกลั่นพุ่ง

กรุงเทพฯ 24 ต.ค.- บมจ.ไทยออยล์คาดกลุ่มโอเปกขยายระยะเวลาลดกำลังผลิตต่อหลังสิ้นสุด 31 มี.ค.61 และคาดราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลต่อเนื่องอีก 2 ปี ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันยังพุ่งสูงขึ้น และกำไรธุรกิจการกลั่นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี 


นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ไปอีก 2 ปี เนื่องจากคาดว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (โอเปก ) น่าจะพอใจราคาน้ำมันระดับนี้ เนื่องจากเป็นราคาที่ผู้บริโภครับได้ ยอดใช้น้ำมันยังคงขยายตัวได้ดี แต่หากราคาสูงเกินไปอาจมีผลให้ปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นและอาจส่งผลให้สหรัฐผลิตน้ำมันจากชั้นหินดิน (เชลล์ออยล์) ดังนั้น จึงคาดว่าการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 30 พศจิกายนนี้อาจจะมีข้อตกลงสำคัญในความร่วมมือกับกลุ่มนอกโอเปกขยายเวลาลดกำลังผลิตต่อเนื่องไปอีกจากที่มีข้อตกลงลดกำลังร่วมกัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561

“ปีหน้าซาอุดิอรามโก้มีแผนจะกระจายหุ้นนับเป็นดีลที่ใหญ่มาก ดังนั้น เชื่อว่าประเทศซาอุดีอาระเบียน่าจะพอใจราคาน้ำมันระดับปัจจุบัน หรือ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และจะเป็นแรงผลักดันให้มีข้อตกลงขยายเวลาลดกำลังผลิตน้ำมันต่อไป” นายอธิคม กล่าว


สำหรับราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นระดับที่ดี เพราะทำให้ความต้องการใช้เติบโต ซึ่งด้านผู้ประกอบการโรงกลั่นก็จะมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ทั้งในส่วนของต้นทุนน้ำมันดิบที่เข้าสู่โรงกลั่น รวมถึงต้นทุนการสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปตามกฎหมายที่ปัจจุบันบริษัทมีการสำรองเฉลี่ยประมาณ 8-10 ล้านบาร์เรล ขณะที่กำไรหรือมาร์จิ้นดีขึ้นจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น โดยความต้องการใช้น้ำมันของไทยช่วงครึ่งแรกของปีนี้โตมากกว่าร้อยละ 3 โดยน้ำมันเครื่องบิน นับว่ามีอัตราเติบโตโดดเด่นถึงร้อยละ 4.4 รองลงมาเป็นน้ำมันเบนซินเติบโตร้อยละ 3.7-3.8 และดีเซล เติบโตประมาณร้อยละ  2 จากราคาน้ำมันที่อยู่ระดับต่ำและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น  

นายอธิคม กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2560 จะอยู่ในระดับที่ดี คาดว่ามีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากสตอกน้ำมันอยู่ที่ระดับ 10.2 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากระดับ 8.3 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 2/2560 ส่วนใหญ่เป็นผลจากธุรกิจโรงกลั่นที่ดีโดยมีค่าการกลั่น (GRM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสตอกน้ำมันอยู่ที่ระดับ 8.1 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากระดับ 6.1 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 2/2560 ขณะที่ส่วนต่าง (สเปรด) ผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หลังโรงงานพาราไซลีน (PX) ของอินเดียที่เพิ่งเปิดดำเนินงานระยะที่ 2 ยังเดินเครื่องไม่ได้เต็มที่มากนัก  

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบสิ้นไตรมาส 3/2560 ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยของเดือนกันยายนอยู่ที่ 53.7 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าราคาปิดสิ้นไตรมาส 2/2560 ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยของเดือนมิถุนายนที่ 46.5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้คาดว่าไตรมาส 3/2560 จะมีกำไรจากสตอกน้ำมันกว่า 2,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2560 ที่มีขาดทุนจากสตอกน้ำมันประมาณ  2,000 ล้านบาท ขณะที่การใช้กำลังการกลั่นใกล้เคียงกับในไตรมาส 2/2560 ที่อยู่ระดับร้อยละ 112 และการใช้กำลังการผลิตของโรงงานอะโรเมติกส์ อยู่ในระดับร้อยละ 80 ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2560 


สำหรับไตรมาส 4/2560 คาดว่าธุรกิจอะโรเมติกส์จะเริ่มเห็นแรงกดดันด้านราคาหลังโรงงานพาราไซลีนของโรงงงานรีไลแอนซ์  ประเทศอินเดีย ที่น่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ เริ่มสังเกตได้จากสเปรดผลิตภัณฑ์พาราไซลีนในไตรมาส 3/2560 อ่อนตัวลงมาเล็กน้อยที่ 270 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และสเปรดผลิตภัณฑ์เบนซีนอยู่ที่ประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน แต่ความต้องการใช้ยังเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อยู่ประมาณ 1 เท่า ส่วนด้านโรงกลั่นน้ำมันนั้นในไตรมาส 4 นับเป็นไตรมาสที่ดีของธุรกิจโรงกลั่น เพราะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวและฤดูหนาว ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น เบื้องต้นมองว่าราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4/2560 น่าจะอยู่ในระดับกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลได้  

“การเจริญเติบโตของโรงกลั่นน้ำมัน capacity ใหญ่ ๆ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางและจีน มีจุด peak เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นการเพิ่มขึ้นของโรงกลั่นน้ำมันมีน้อยมาก แต่ในทางกลับกันราคาน้ำมันที่ต่ำทำให้ดีมานด์เพิ่มขึ้น คาดจะอยู่ในเกณฑ์อีก 2 ปีข้างหน้าและเราก็ไม่คิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV จะเข้ามาเร็ว จึงคาดใน 2 ปีข้างหน้าก็จะเป็นปีที่ enjoy โดย GRM จะยืนสูงไปได้อีก 2 ปี ถ้าถามไทยออยล์มี cash cost อยู่ที่ 1.9 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล อะไรที่สูงกว่านี้ก็แปลว่าส่วนต่างเหล่านี้เป็นกำไร” นายอธิคม กล่าว  

นายอธิคม คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปีนี้จะทำระดับสูงสุดใหม่ จากปีที่แล้วที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 1.38 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้สามารถทำได้แล้ว 9.4 พันล้านบาท ขณะที่กำไรจากสตอกน้ำมันปีนี้คาดว่าจะไม่มากเหมือนปีก่อนที่สูงถึง 7.18 พันล้านบาท ซึ่งผลักดันให้กำไรสุทธิทั้งปี 2559 อยู่ที่ระดับ 2.12 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบล่าสุดอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับปิดที่ 52.1 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในสิ้นปี 2559.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]

ทหารยิงปะทะคาราวานขนยาเสพติด คนร้ายดับ 4

เชียงใหม่ 13 มิ.ย. – ทหารยิงปะทะคาราวานขนยาเสพติด บริเวณเส้นทางบ้านขอบด้ง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ คนร้ายเสียชีวิต 4 ราย ยึดยาบ้า 400,000 เม็ด ทหารหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ เข้าตรวจสอบจุดปะทะ บริเวณเส้นทางบ้านขอบด้ง ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังลาดตระเวนพบคาราวานขนยาเสพติด เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 6-8 คน แบกเป้เข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ช่วงเช้ามืดวันนี้ (13 มิ.ย.) จึงส่งสัญญาณให้หยุด แต่ขบวนการดังกล่าวเปิดฉากยิงเข้าใส่ ทหารจึงยิงตอบโต้ ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 10 นาที ก่อนกลุ่มคนร้ายล่าถอย จากการตรวจสอบพื้นที่พบศพกลุ่มขบวนการ 4 ราย ยึดยาบ้า 400,000 เม็ด โดยกองกำลังผาเมืองนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจพื้นที่จุดปะทะอย่างละเอียดอีกครั้งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เชื่อกัมพูชาเข้าใจผิด ตัดไฟ-เน็ต ส่ง กต.เคลียร์

ถนนวิทยุ 13 มิ.ย.- นายกฯ เชื่อกัมพูชาเข้าใจผิด ไทยออกแถลงการณ์ “ตัดไฟ-เน็ต” เผยแค่มาตรการเตรียมพร้อม ส่ง กต.เคลียร์ หลัง “ฮุน เซน” งัด 6 มาตรการโต้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฯฮุนเซน ประกาศ 6 มาตรการตอบโต้ประเทศไทย หากไม่ยอมเปิดด่านพรมแดน ซึ่งล่าสุดได้มีการปิดด่านที่จังหวัดจันทบุรีโดยไม่มีการแจ้งให้ทางการไทยทราบก่อน โดยนายกฯระบุว่าตอนแรกทางกัมพูชาได้ยินว่าไทยจะตัดน้ำตัดไฟ(ตัดไฟตัดเน็ต) แต่จริงๆแล้ว เรื่องนี้ต้องอยู่ในมาตรการที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช. ก่อน และเรายังไม่ได้มีการประกาศออกไป แต่ยอมรับว่ามีการเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ และย้ำว่าเรายังไม่ได้ทำแบบนั้น ซึ่งอาจมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น จึงได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและคณะทำงานว่าเกิดอะไรขึ้น จนทำให้เข้าใจผิดว่ารัฐบาลออกแถลงการณ์ว่าจะตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งไม่จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีการพูดคุยกันก็มีการตกลงกันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะปรับกำลัง และจะรอการพูดคุยในการประชุม JBC วันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารด้วยว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่แถลงการณ์จากรัฐบาล ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องประสานโดยตรงกับกัมพูชา หรือมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันหรือไม่ นายก รัฐมนตรี กล่าวว่า จะมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศประสานไปทางกัมพูชาว่าข้อมูลดังกล่าวมาได้อย่างไร มีกระบวนการอย่างไร เพราะจริงๆแล้วเราได้มีการเตรียมการทุกสถานการณ์และเมื่อผ่านความเห็นชอบจาก สมช. […]