นายกฯ ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าทุกอย่างตามโรดแมป

ทำเนียบรัฐบาล 18 ต.ค.-นายกฯ ขอความร่วมมือสื่อใช้เวลาช่วง 30 วัน ถึงวันที่ 13 พ.ย. เน้นเสนอรายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ให้กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุ ยืนยันว่ารัฐบาลยังดำเนินการทุกอย่างตามโรดแมป


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการเตรียมการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยกล่าวขอบคุณข้าราชการตำรวจ ทหาร พลเรือน และเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่ถวายพระเกียรติยศได้เรียบร้อย ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างดี ทั้งความปลอดภัย การเดินทาง สุขภาพอนามัย อาหารการกินและที่พัก ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่วางแผนด้านการจราจรให้เรียบร้อย โดยเฉพาะวันเสด็จพระราชดำเนิน และภายหลังจากที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพได้ หากหน่วยงานใดประสบปัญหาให้รายงานมายังรัฐบาล โดยรัฐบาลได้ตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ที่ทำเนียบรัฐบาล หมายเลขโทรศัพท์ 1111

“รัฐบาลขอความร่วมมือให้สื่อโทรทัศน์และวิทยุใช้เวลาในช่วง 30 วัน จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 เน้นการเสนอรายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในแง่มุมต่างๆ โดยอาจให้ประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยการสัมภาษณ์ความรู้สึก และประสบการณ์ที่น่าประทับใจ การถ่ายทอดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ถ่ายทอดพร้อมกันในช่วงเสด็จพระราชดำเนิน เมื่อพ้นจากช่วงเวลาเหล่านี้แล้ว อาจพิจารณาเสนอรายการปกติได้ แต่ควรเน้นการให้ความรู้ การพัฒนามากกว่าบันเทิง และเมื่อพ้นกำหนดช่วง 30 วันแล้ว ขอให้สถานีโทรทัศน์พิจารณาจัดรายการตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมการเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุ โดยขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และให้ส่วนราชการอื่นๆ เตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมการแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ให้เรียบร้อยด้วย

“ขอให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงแก่ประชาชนเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำออกพระนาม การใช้ถ้อยคำภาษาที่เหมาะสม การแต่งกาย การปฏิบัติในเวลาเข้าถวายบังคมพระบรมศพ ตลอดจนวิธีแสดงความจำนงขอมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวาย ทั้งนี้ รัฐบาลไม่เคยมีคำสั่งให้ถอดพระบรมฉายาลักษณ์ออกจากสถานที่ใด มีแต่ขอให้รักษาทุกอย่างไว้เช่นเดิม แต่การใช้ถ้อยคำบางอย่างตามพระบรมฉายาลักษณ์ที่เคยใช้มา แต่เดิมอาจไม่เหมาะสม เช่น คำว่าทรงพระเจริญ หรือ ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา และหากจะต้องเปลี่ยนพระบรมฉายาลักษณ์ หรือติดผ้าดำขาวแสดงความไว้อาลัยให้ทำต่อเนื่องขณะการนำพระบรมฉายาลักษณ์เดิมออก ติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ใหม่ อย่าให้มีช่องว่างเป็นอันขาด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการจัดงานรื่นเริงบันเทิงต่างๆ ในช่วงเวลา 30 วันแรก นับแต่วันที่ 14 ตุลาคม ให้พิจารณาตามความเหมาะสม โดยงดเฉพาะส่วนที่เป็นมหรสพหรือความบันเทิง เช่น การแสดงดนตรี การร้องรำทำเพลง แต่ยังสามารถจัดงานประชุม งานมงคลสมรส กฐิน งานลอยกระทง งานบำเพ็ญกุศล หรือศาสนกิจตามประเพณีได้  การเลี้ยงหรือชุมนุมสังสรรค์ ที่ทำในอาคารและเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม ตามที่จัดเป็นปกติหรือได้เตรียมการไว้แล้ว ก็ให้จัดได้ตามความเหมาะสม


“ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกวดขันระมัดระวังการเผยแพร่ภาพหรือข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ หรือยุยงให้เกิดความแตกแยก อันเป็นการสะเทือนจิตใจชาวไทยในยามนี้ และขอความร่วมมือประชาชน อย่าได้เผยแพร่ภาพหรือข้อความดังกล่าวต่อไปเป็นอันขาด เพราะนอกจากจะเป็นการเหยียบย่ำจิตใจคนไทยแล้ว ยังผิดกฎหมายด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่มีการเสนอคำว่ามหาราชต่อท้าย พระนามพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถใช้ได้เพราะต้องดำเนิการตามขั้นตอน ซึ่งก่อนหน้านี้พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ยังไม่ทรงรับและทรงให้เป็นเรื่องของรัฐบาลกับประชาชนที่จะต้องดำเนินการ เช่นเดียวกับการที่ได้มีการเสนอสร้างพระบรมราชานุสรณ์ในขณะนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเวลาที่ต้องร่วมกันจัดพระราชพิธีพระบรมศพให้สมพระเกียรติยศ ซึ่งหากจะมีการดำเนินการต้องมีการขอพระบรมราชานุญาต

“ช่วงเวลานี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ และช่วยกันสร้างความเข้าใจในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ยืนยันว่าการดำเนินงานของรัฐบาลยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป ทั้งกฎหมายต่างๆ รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง จึงอยากขอร้องว่าอย่าสร้างปัญหาให้เกิดความล่าช้าและขอให้นึกถึงประเทศชาติมาก่อน นอกจากนี้รัฐบาลจะสานต่อโครงการตามพระราชดำริ รวมถึงน้อมนำกระแสพระราชดำรัส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การบริหารจัดการน้ำ การปฏิรูปเศรษฐกิจมาสร้างการรับรู้เพิ่มขึ้นด้วย ขอทุกคนอย่าหลงเชื่อข่าวลือทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ขอให้ทุกคนเชื่อมั่น ไว้ใจซึ่งกันและกันและฟังการชี้แจงจากรัฐบาล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนประเด็นเรื่องของคนที่ไม่สวมใส่เสื้อสีดำ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่าไปต่อว่าบุคคลเหล่านั้น เพราะความพร้อมของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน แต่ทุกคนมาด้วยใจ รัฐบาลได้ให้คำแนะนำแล้วว่าสามารถติดริบบิ้นสีดำ และจัดจุดให้บริการย้อมผ้า

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณสถานทูตในต่างประเทศที่ได้จัดพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนร่วมการแสดงความอาลัย แสดงให้เห็นว่าคนไทยในต่างประเทศมีความเคารพสถาบันมาก แม้ขณะนี้มีคนที่เห็นต่างอยู่บ้าง แต่ก็ต้องให้อภัย ช่วงนี้ต้องให้ใจซึ่งกันและกัน ส่วนเรื่องของกฎหมายเป็นคนละเรื่อง อย่ากังวล เพราะต้องดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนสงบนิ่งและแสดงความอาลัยต่อพระองค์ท่าน

“รัฐบาลจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นและต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญอย่างไร ผมจะพยายามทำให้สถาบันมีความเข้มแข็งให้ได้  ขอบคุณในความร่วมมือทุกอย่าง ผมรู้ทุกคนเสียใจเหมือนผมเสียใจ แต่พยายามทำให้ดีที่สุด ผมต้องพยายามมีสติ ใช้สติปัญญาในการเดินหน้าไปให้ได้ เพราะประเทศเราหยุดไม่ได้ แต่ความเสียใจห้ามไม่ได้ เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกัน รักสามัคคีและเปลี่ยนความเศร้าโศกเสียใจเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่มีความหวัง เป็นประเทศที่มีความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการใช้อำนาจหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการากรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ว่า เพื่อให้การบริหารงานสอดคล้องกับภาระหน้าที่ เพราะหากไม่มีคนทำหน้าที่จะมีผลกระทบต่อการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานครได้ ส่วนเรื่องกฏหมายให้เป็นไปตามขั้นตอน ขออย่าวิพากษ์วิจารณ์ว่าใครผิดหรือถูกก่อนที่จะมีความชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ.สั่งสอบกัมพูชานำ 22 วรรณกรรมไทย สอดไส้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

15 ก.ค. – ปลัดวัฒนธรรม สั่งตรวจสอบแล้ว หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโกโดยประเทศอื่นๆ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโก โดยประเทศอื่นๆ นั้น กระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่าหากได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป เขมรเคลมฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้วก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JanJao K. Sisprakaew” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่เขมรนำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย รายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นโดยชาวไทย แต่ถูกเขมรนำไปขึ้นทะเบียนต่อ Unesco ในหัวข้อ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ Cultural heritage of Cambodia” วรรณกรรมไทยเหล่านี้ถูกเขมรเคลมเป็นของตนเองเพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodiaโดยเขมรอ้างว่ารายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2545 จากละครเรื่อง […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]