กรุงเทพฯ 17 ต.ค. – สมาคมศูนย์การค้าไทยประเมินภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปีนี้โตร้อยละ 4-5 ผนึกสมาชิกปรับกลยุทธ์ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ หวังดันยอดโตตามเป้าหมายปีนี้ พร้อมมั่นใจปี 62 มีพื้นที่รวมให้บริการกว่า 9.1 ล้าน ตร.ม ด้วยเงินลงทุนมากถึง 5.7 หมื่นล้านบาท
น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย กล่าวว่า สมาคมศูนย์การค้าไทย (TSCA) ประกาศ เดินหน้าสู่ยุค Retail 4.0 โดยกลยุทธ์การดำเนินงานและความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ของสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งทางสมาคมฯ ประเมินภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกไทยทั้งระบบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไปเรียบง่ายสะดวก จึงคาดว่าธุรกิจค้าปลีกจะมีอัตราการเติบโตที่ตั้งไว้ว่าจะขยายตัวปีนี้ร้อยละ 4-5 ได้แน่นอนตามการเติบโตของภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ร่วมกับ 13 ภาคเอกชนค้าปลีกกำหนดทิศทางและนโยบายที่จะดันให้ธุรกิจเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ปีนี้ใน 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางด้วยการออกแบบศูนย์การค้าและปรับปรุงรูปแบบให้บริการให้ทันไลฟ์สไตล์แก่ผู้บริโภคยุคดิจิทัลทุกเพศทุกวัย 2.เน้นทำการตลาดแบบผสมผสานทุกช่องทางเชื่อมประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ และ 3.สร้างพันธมิตรเปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นคู่ค้า โดยผนึกกำลังกันร่วมสนับสนุนนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐเต็มที่ทุกเรื่อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดย่านช้อปปิ้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 แนวทางดังกล่าวนอกจากเป็นการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจค้าปลีกตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่แล้ว แต่ละห้างสรรพสินค้าที่มีโครงการขยายพื้นที่ให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่แต่ละจังหวัดทำให้ภายในปี 2562 จะมีพื้นที่ของศูนย์การค้าของสมาคมฯ รวม 107 แห่ง เป็นพื้นที่รวมกันจากขณะนี้ 8 ล้าน ตร.ม. เพิ่มเป็น 9.1 ล้าน ตร.ม. ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 57,000 ล้านบาท
นางวัลยา กล่าวว่า แม้ธุรกิจค้าปลีกยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่เป็นการเติบโตแบบผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวัง จึงเชื่อว่าอัตราการเติบโตภาคธุรกิจค้าปลีกปีนี้และปีหน้าจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4-5 เช่นกัน และสิ่งที่ภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลพิจารณา คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย หากปรับลดภาษีนำเข้าลงร้อยละ 5-10 จะเป็นการกระตุ้นท่องเที่ยว เพราะต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวจะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเท่ากับรัฐบาลจะเก็บภาษีท่องเที่ยวทดแทนการลดภาษีนำเข้าในกลุ่มสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น อีกทั้งกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน. -สำนักข่าวไทย