จัดการจราจรในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ

กรุงเทพฯ 13 ต.ค.- บช.น. แจ้งข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตารวจจราจร ว่าด้วยการจัดการจราจร ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ” 


พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รรท.ผบก.จร. ขอประชาสัมพันธ์ข่าวสารกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการจราจรดังนี้ 

เนื่องด้วยสานักพระราชวังได้กาหนดให้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวงในวันที่ 26 ต.ค.60 ประกอบกับมีพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องในระหว่างวันที่ 25 ต.ค.60 ถึงวันที่ 29 ต.ค.60 ดังนั้น เพื่อเป็นการปลอดภัยและสะดวกในการจราจร ทางกองบัญชาการตารวจนครบาลจึงได้มีพิจารณาออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรเพื่อรองรับการจัดการจราจรในพระราชพิธีดังกล่าวดังนี้ 


1. ห้ามรถทุกชนิดเดิน ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.60 ถึงวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนและซอยดังต่อไปนี้ 

1) ถนนหน้าหับเผย 2) ถนนหลักเมือง 3) ถนนมหาราช 4) ถนนท้ายวัง 5) ถนนเชตุพน 6) ถนนเศรษฐการ 7) ถนนพระพิพิธ 8) ถนนสนามไชย 9) ถนนราชดาเนินใน 10) ถนนพระจันทร์ 11) ถนนหน้าพระธาตุ 12) ถนนหน้าพระลาน 13) ถนนราชินี ตั้งแต่แยกตัดถนนพระอาทิตย์ ถึงแยกผ่านภิภพลีลา 14) ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วงเวียนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถึงแยกสะพานมอญ 15) ถนนกัลยาณไมตรี ตั้งแต่แยกตัดถนนสนามไชย ถึงสะพานช้างโรงสี 16) ซอยสราญรมย์ 

2. ห้ามจอดรถทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.60 ถึงวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนและซอยดังต่อไปนี้ 


1) ถนนหน้าหับเผย 2) ถนนหลักเมือง 3) ถนนมหาราช 4) ถนนท้ายวัง 5) ถนนเชตุพน 6) ถนนเศรษฐการ 7) ถนนพระพิพิธ 8) ถนนสนามไชย 9) ถนนพระจันทร์ 10) ถนนหน้าพระธาตุ 11) ถนนหน้าพระลาน 12) ถนนราชินี 13) ถนนอัษฎางค์ 14) ถนนเจริญกรุง 15) ถนนราชดาเนินใน 16) ถนนกัลยาณไมตรี 17) ถนนพระอาทิตย์ 18) ถนนจักรพงษ์ ตั้งแต่แยกบางลาพู ถึงจุดเชื่อมต่อถนนเจ้าฟ้า 19) ถนนเจ้าฟ้า ตั้งแต่แยกตัดถนนจักรพงษ์ ถึงแยกตัดถนนพระอาทิตย์ 20) ถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกสะพานขาว ถึงแยกกษัตริย์ศึก 21) ถนนพระสุเมรุ ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อถนนพระอาทิตย์ (ซอยลาพู) ไปถึงแยกบางลาพู 22) ซอยพระยาเพชร 23) ซอยสราญรมย์ 

3. กำหนดให้รถทุกชนิดเดินได้ทางเดียว ตั้งแต่วันที่ ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.60 ถึงวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนดังต่อไปนี้ 

1) ถนนพระสุเมรุ จากจุดเชื่อมต่อถนนพระอาทิตย์ (ซอยลาพู) ถึงแยกบางลาพู 

2) ถนนจักรพงษ์ จากแยกบางลาพู ถึงจุดเชื่อมต่อถนนเจ้าฟ้า 

3) ถนนเจ้าฟ้า จากแยกตัดถนนจักรพงษ์ ถึงแยกตัดถนนพระอาทิตย์ 

4) ถนนพระอาทิตย์ จากถนนเจ้าฟ้า (ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า) ถึงจุดเชื่อมต่อถนนพระสุเมรุ (ซอยลาพู) 

4. ห้ามรถทุกชนิดเลี้ยวขวา ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.60 ถึงวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนดังต่อไปนี้ 

1) ถนนเจริญกรุง ไปทางถนนสนามไชย 2) ถนนจักรพรรดิพงษ์ ไปทางถนนราชดาเนินนอก 

5. ถนนราชดาเนินนอก ตั้งแต่พระลานพระราชวังดุสิต ถึงแยกผ่านฟ้าลีลาศ ห้ามรถทุกชนิดเดิน และห้ามจอดรถทุกชนิด ระหว่างวันที่ 25 ต.ค.60 ถึงวันที่ 26 ต.ค.60 และกาหนดให้จัดการจราจร ดังนี้ 

1) ช่องทางคู่ขนานฝั่งทิศตะวันออก (ด้านกองทัพภาคที่ 1) กาหนดให้เป็นเส้นทางรถฉุกเฉิน และรถที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ 

2) ช่องทางคู่ขนานฝั่งทิศตะวันตก (ด้านกระทรวงศึกษาธิการ) กาหนดให้เป็นทางเดินเท้าสาหรับประชาชน 

6. ถนนราชดาเนินกลาง ตั้งแต่แยกผ่านฟ้าลีลาศ ถึงแยกผ่านพิภพลีลา ห้ามรถทุกชนิดเดินและห้ามจอดรถทุกชนิด ระหว่างวันที่ 25 ต.ค.60 ถึงวันที่ 26 ต.ค.60 และกาหนดให้จัดการจราจร ดังนี้ 

1) ช่องทางเดินรถฝั่งทิศเหนือขาออก (ด้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาราชดาเนิน)ติดกับเกาะกลางถนน 2 ช่องจราจร กาหนดให้เป็นเส้นทางรถฉุกเฉินและรถที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ 

2) ช่องทางเดินรถฝั่งทิศเหนือขาออก (ด้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาราชดาเนิน) 

ถัดจากเกาะกลางถนน 2 ช่องจราจร กาหนดให้เป็นทางเดินเท้าสาหรับประชาชน 

7. ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ ถึงแยกผ่านพิภพลีลา ห้ามรถทุกชนิดเดิน 

และห้ามจอดรถทุกชนิด ระหว่างวันที่ 25 ต.ค.60 ถึงวันที่ 26 ต.ค.60 และกาหนดให้จัดการจราจร ดังนี้ 

1) ช่องทางเดินรถฝั่งทิศเหนือขาเข้า (ด้านฝั่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป) ติดกับเกาะกลางถนน 1 ช่องจราจร กาหนดให้เป็นเส้นทางรถฉุกเฉินและรถที่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ 

2) ช่องทางเดินรถฝั่งทิศเหนือขาเข้า (ด้านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป) ถัดจากช่องทางฉุกเฉินกาหนดให้เป็นทางเดินเท้าสาหรับประชาชน 

3) ช่องทางเดินรถฝั่งทิศใต้ขาออก (ด้านสนามหลวง) ทุกช่องทางจราจร กาหนดให้เป็นเส้นทางรถฉุกเฉินและรถที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบ 

8. เส้นทางขบวนอัญเชิญพระบรมศพฯ ห้ามรถทุกชนิดเดิน และห้ามจอดรถทุกชนิด ในวันที่ 25 ต.ค.60 ถึงวันที่ 26 ต.ค.60 ในถนนดังต่อไปนี้ 

1) ถนนลูกหลวง 2) ถนนหลานหลวง ตั้งแต่แยกผ่านฟ้าลีลาศ ถึงแยกสะพานขาว 3) ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจฯ ถึงแยก พล.1 4) ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชยการ ถึงแยกวังแดง 5) ถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกประชาเกษม ถึงแยกเทวกรรม 6) ถนนจักรพรรดิพงษ์ ตั้งแต่แยกแม้นศรี ถึงแยก จปร. 7) ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ตั้งแต่แยก จปร. ถึงแยกวิสุทธิกษัตริย์ 8) ถนนนครสวรรค์ ตั้งแต่แยกผ่านฟ้าลีลาศ ถึงแยกนางเลิ้ง 9) ถนนตะนาว ตั้งแต่ถนนพระสุเมรุ ถึงถนนมหรรณพ (แยกศาลเจ้าพ่อเสือ) 10) ถนนดินสอ ตั้งแต่แยกสะพาน

เฉลิมวันชาติ ถึงแยกตัดถนนมหรรณพ (แยก กทม.) 11) ถนนมหาไชย ตั้งแต่แยกสาราญราษฎร์ ถึงแยกป้อมมหากาฬ 12) ถนนพระสุเมรุ ตั้งแต่แยกป้อมมหากาฬ ถึงแยกสะพานเฉลิมวันชาติ 13) ถนนราชินี ตั้งแต่แยกปากคลองตลาด ถึงแยกผ่านพิภพลีลา 14) ถนนอัษฎางค์ ตั้งแต่แยกพระพิทักษ์ ถึงแยกผ่านพิภพลีลา 15) ถนนมหาราช ตั้งแต่แยกพระจันทร์ ถึงแยกปากคลองตลาด 16) ถนนคู่ขนานลอยฟ้า (บรมราชชนนี) ตั้งแต่ทางร่วมสะพานพระราม 8 ถึงทางขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 

9. ถนนกรุงเกษม จากแยกสะพานขาว ถึงแยกกษัตริย์ศึก กาหนดให้รถทุกชนิด เดินได้ทางเดียว ในวันที่ 25 ต.ค.60 ถึงวันที่ 26 ต.ค.60 

10. เส้นทางขบวนพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคารฯ ห้ามรถทุกชนิดเดิน และห้ามจอดรถทุกชนิด บริเวณโดยรอบวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนและซอยดังต่อไปนี้ 

1) ถนนราชินี ตั้งแต่แยกผ่านพิภพลีลา ถึงแยกพระพิทักษ์ 

2) ถนนอัษฎางค์ ตั้งแต่แยกผ่านพิภพลีลา ถึงแยกพระพิทักษ์ 

3) ถนนราชบพิธ 

4) ถนนเฟื่องนคร ตั้งแต่แยกสี่กั๊กพระยาศรี ถึงแยกสี่กั๊กเสาชิงช้า 

5) ซอยพระยาศรี 

11. ถนนที่เชื่อมต่อในเส้นทางขบวนพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคารฯ ห้ามรถทุกชนิดเดิน และห้ามจอดรถทุกชนิด บริเวณโดยรอบ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนดังต่อไปนี้ 

1) ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่วงเวียนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถึงแยกสี่กั๊กพระยาศรี 

2) ถนนบารุงเมือง ตั้งแต่แยกสะพานช้างโรงสี ถึงแยกเสาชิงช้า 

3) ถนนสุขา 1 

4) ถนนสุขา 2 

12. เส้นทางขบวนพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคารฯ ห้ามรถทุกชนิดเดิน และห้ามจอดรถทุกชนิด บริเวณโดยรอบวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร ในวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนดังต่อไปนี้ 

1) ถนนราชดาเนินกลาง ตั้งแต่แยกผ่านพิภพลีลา ถึงแยกผ่านฟ้าลีลาศ 

2) ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่แยกอรุณอัมรินทร์ ถึงแยกผ่านพิภพลีลา 

3) ถนนพระสุเมรุ 

4) ถนนบวรนิเวศน์ 

5) ถนนสิบสามห้าง 

6) ถนนบ้านพานถม 

13. ถนนที่เชื่อมต่อในเส้นทางขบวนพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคารฯ ห้ามรถทุกชนิดเดิน และห้ามจอดรถทุกชนิด บริเวณโดยรอบ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร ในวันที่ 29 ต.ค.60 ในถนนและซอยดังต่อไปนี้ 

1) ถนนตะนาว ตั้งแต่แยกสี่กั๊กเสาชิงช้า ถึงวงเวียนสิบสามห้าง 

2) ถนนดินสอ ตั้งแต่แยกตัดถนนมหรรณพ (แยก กทม.) ถึงแยกสะพานเฉลิมวันชาติ 

3) ถนนประชาธิปไตย แยกสะพานเฉลิมวันชาติ ถึงแยกวิสุทธิ์กษัตริย์ 

4) ถนนมหาไชย ตั้งแต่แยกสาราญราษฎร์ ถึงแยกป้อมมหากาฬ 

5) ถนนหลานหลวง ตั้งแต่แยกผ่านฟ้าลีลาศ ถึงแยกหลานหลวง 

6) ถนนราชดาเนินนอก ตั้งแต่แยกผ่านฟ้าลีลาศ ถึงแยก จปร. 

7) ถนนตานี 

8) ถนนข้าวสาร 

9) ซอยดาเนินกลางเหนือ 1233 

10) ซอยรามบุตรี 

11) ซอยไกรสีห์ 

14. ข้อบังคับนี้มิให้ใช้บังคับกับรถ ดังต่อไปนี้

1) รถในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ 

2) รถเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ และรถเจ้าพนักงานตารวจ 

ขณะปฏิบัติหน้าที่ 

3) รถที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ 

จึงขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง เตรียมความพร้อมและสารวจเส้นทางการเดินทางให้ชัดเจน เพื่อจะได้เกิดความสะดวกในการเดินทาง หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทาง แจ้งอุบัติเหตุจราจร และข้อมูลสภาพจราจรเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือผ่านแอพพลิเคชั่น POLICE I LERT U และWWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย