ขอนแก่น 11 ต.ค.-หนุ่มวัย 15 ถูกการ์ดผับเมืองขอนแก่นรุมซ้อมอาการยังวิกฤต-ปอดติดเชื้อ แพทย์ต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะรักษาอาการสมองบวม เสี่ยงเป็นเจ้าชายนิทรา
นายแพทย์ธิติ ธิติศักดิ์สกุล แพทย์แผนกประสาทศัลยแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น แพทย์ผู้รักษาอาการบาดเจ็บของ “น้องปาร์ค” เยาวชนชายวัย 15 ปีที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นการ์ดของผับชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นรุมทำร้ายในช่วงกลางดึกของวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของน้องปาร์ค ว่า อาการโดยรวมขณะนี้ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากคนไข้ยังไม่สามารถตอบสนองตามคำสั่งได้ ประกอบกับตอนนี้มีภาวะติดเชื้อในปอด ทำให้แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดภายในห้องปลอดเชื้อ วันแรกที่น้องปาร์คถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 30 ก.ย. น้องปาร์คไม่รู้สึกตัวและมีอาการสาหัส หนักที่สุดคืออาการเลือดออกในสมองและสมองบวมอย่างรุนแรง จากการถูกกระแทกด้วยของแข็ง แพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดช่วยเหลือตั้งแต่วันแรก ด้วยการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะด้านบนซ้ายออก เพื่อรักษาอาการเลือดออกในสมองและให้สมองที่บวมไม่ถูกกดทับ ส่วนบาดแผลที่บริเวณอื่นๆ เช่นบริเวณขาด้านซ้าย พบมีบาดแผลที่เกิดจากไฟไหม้ ขนาดฝ่ามือ ซึ่งไม่ถือว่าสาหัส
ส่วนข้อกังวลของทางครอบครัวว่า น้องปาร์ค จะมีโอกาสฟื้นขึ้นมาหรือไม่ นายแพทย์ ธิติ ระบุว่า จะต้องรอดูอาการอีก 3 – 6 เดือน เพื่อให้สมองได้ฟื้นตัว จากนั้นจึงจะประเมินได้ว่าคนไข้จะกลับมาเป็นปกติหรือไม่ ซึ่งตอนนี้แพทย์ได้ทำการเจาะคอเพื่อช่วยระบายเสมหะและใส่เครื่องช่วยหายใจ เพราะคนไข้ยังไม่สามารถหายใจด้วยตนเองได้เต็มที่ หากระยะเวลา 3 – 6 เดือน สมองของคนไข้ฟื้นตัวดี แพทย์จะนำแผ่นกะโหลกศีรษะที่ผ่าตัดออกไปตั้งแต่วันแรก ประมาณ 10 เซนติเมตร หรือประมาณ 1 ฝ่ามือ มาทำการผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะคืนให้
สำหรับน้องปาร์ค เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็นการ์ดของผับชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในช่วงกลางดึกของวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในเพื่อนที่ไปด้วยกันอ้างว่า น้องปาร์คและเพื่อนๆ รวม 8 คน ได้ไปขับรถเล่นในเมือง ก่อนจะไปจอดรถที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับผับ ก่อนที่จะถูกการ์ดของผับรุมทำร้ายร่างกาย เพราะคิดว่าจะมาก่อความวุ่นวาย ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้เป็นพ่อได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุในข้อหาทำร้ายร่างกาย และข้อหาพยายามฆ่าในเวลาต่อมา
ทางคดี พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย จากทั้งหมด 3 ราย โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำขอนแก่น ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย ซึ่งกำลังหลบหนีหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า คาดว่าจะสามารถนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย