“เปิ้ล นาคร” แจ้งความชายนิรนามขับเก๋งเข้าบ้าน

กรุงเทพฯ 9 ต.ค.-“เปิ้ล นาคร” เข้าแจ้งความชายนิรนามขับเก๋งเข้าบ้านถามหา ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบสวน


จากกรณีเฟซบุ๊ก “Ple Nakorn” นักแสดงและพิธีกรชื่อดังได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิป ระบุว่า “ขออนุญาตแจ้งตำรวจนะครับ….เจอแบบนี้….น่ากลัวครับ ใครรู้เบาะแสแจ้งด้วยนะครับ โดยภาพเหตุการณ์ในคลิปมีรถขับเข้าไปในบ้านและเป็นรถที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน จู่ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาในบ้านแล้วถามว่าเปิ้ลอยู่หรือเปล่า โดยที่คนในบ้านไม่มีใครเคยรู้จักเลย แต่บอกว่ารู้จักกับเปิ้ล โดยที่ในรถมีคนนั่งรออยู่ด้วย ดูลาดเลาอยู่อีกคน อันนี้น่ากลัวมาก ยามปล่อยเข้ามาได้อย่างไร  ตนเองไม่อยู่ในบ้านมีแต่เด็ก และผู้หญิง อันนี้คุณเข้ามาในบ้านแล้วมาบอกเป็นเพื่อนเปิ้ล แต่เราไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก” 


วันนี้ (9 ต.ค.) เวลา 12.45 น. ที่ สน.โคกคราม นายนาคร ศิลาชัย หรือเปิ้ล นาคร พร้อม นางสาวกษมา มยุมาศ ภรรยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุวรรณ ผลอินทร์ รองผกก.(สอบสวน) สน.โคกคราม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพของบุคคลที่เข้ามาภายในบ้านภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามอินทรา 34 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ


นายนาคร กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชายรูปร่างท้วมขับรถยนต์สีเขียว เข้ามาภายในบริเวณบ้านจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ลงจากรถและเปิดปะตูเข้ามาภายในบ้านพร้อมยกมือไหว้และถามหา “ปอน นาเคิ้ล” ซึ่งทางแม่บ้านตอบว่า ไม่รู้จัก ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่า “เปิ้ล นาคร” ซึ่งแม่บ้านก็ได้บอกว่า ไม่อยู่ ก่อนชายคนดังกล่าวก็ได้มองไปบริเวณภายในบ้านก่อนจะเดินกลับออกไป หลังจากที่ทราบเรื่องรู้สึกตกใจและไม่สบายใจ จึงเดินเข้าแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐาน นายนาคร ยังกล่าวถึงสาเหตุที่เปิดประตูรั้วบ้านไว้เนื่องจากเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน เคยเกิดเหตุการณ์ประตูรั้วล้มลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในบ้านจนเสียหาย จึงกลัวว่า ประตูรั้วจะล้มทับลูกๆ ซึ่งอยู่ในวัยกำลังซุกซน ทั้งนี้บ้านของตนเองก็อยู่ด้านในสุดไม่ค่อยมีรถผ่านเข้า-ออก จึงไม่ได้ปิดประตูรั้วบ้านไว้

ด้านนายเจษฎากร เทียบจิรประภา อายุ 24 ปี เจ้าของรถคันดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาให้ปากคำ เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของตนเองจริง ซึ่งจอดรถไว้หน้าบ้านระหว่างนั้นได้มีชายคนดังกล่าวที่ปรากฎในคลิปเดินเข้ามาพูดคุยและขอลองขับรถ จึงยินยอมให้ลองโดยตนเองนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขับรถไปบ้านของนายนาคร ซึ่งด้านหน้าหมู่บ้านมียามอยู่ และชายคนดังกล่าวก็บอกกับยามว่า ไปบ้านของนายนาคร เมื่อขับเข้าไปถึงบ้านของนายนาคร ชายคนดังกล่าวก็ไปเปิดประตูบ้านด้านในเข้าไปใช้เวลาประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นก็ได้กลับมายังรถและขับรถของตนกลับมาที่เดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ทราบว่าเป็นบ้านของนายนาคร จนมาทราบทีหลัง ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่รู้จักกับชายคนดังกล่าวแต่อย่างใด

 พ.ต.อ.ศรายุทธ กล่าวว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวชายคนดังกล่าวที่ปรากฏในคลิปกล้องวงจรปิด ซึ่งทราบตัวและที่อยู่แล้ว เป็นซอยเดียวกับบ้านของนายนาคร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน