ตรัง 6 ต.ค.-เจ้าของร้านถ่ายรูปเก่าแก่กว่า 66 ปี ใน จ.ตรัง ที่ได้เคยเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และบันทึกภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จประพาส จ.ตรัง ได้ย้อนความทรงจำในช่วงเวลาอันล้ำค่าของชีวิต แม้จะล่วงเลยมานานหลายสิบปี แต่ก็ยังจดจำช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันยังคงเก็บรวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์ที่พ่อและตัวเองถ่ายใส่กรอบไว้อย่างดี
นายธีระ จริงจิตร หรือโกแก่ อายุ 66 ปี เจ้าของร้านเสรีอ๊าร์ต ได้นำภาพประวัติศาสตร์เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จประพาส ณ อ.เมืองตรัง ซึ่งสถานที่ประทับดังกล่าวปัจจุบันคือศาลจังหวัดตรัง เป็นภาพที่มีอายุถึง 58 ปี ซึ่งเป็นภาพที่นายเสรี จริงจิตร พ่อของโกแก่ ได้เข้าไปบันทึกภาพ โดยในสมัยนั้นยังไม่มีผู้สื่อข่าว และในจังหวัดมีร้านถ่ายภาพเพียงไม่กี่ร้าน
โกแก่ ยังเก็บบัตรประจำตัวของนายเสรี จริงจิตร ผู้เป็นพ่อ ที่ได้เคยรับอนุญาตให้เข้าในเขตพระราชฐาน ซึ่งหน้าบัตรมีรูปถ่ายของนายเสรี และมีข้อความว่า อนุญาตให้เข้าในเขตพระราชฐานชั้นนอกในวันที่ 15 มีนาคม 2502 บัตรยังคงอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยชำรุดแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าบิดาจะเสียชีวิตไป 35 ปีแล้วก็ตาม
โกแก่ ก็ยังเก็บรักษาภาพประวัติศาสตร์เก่าแก่เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทั้งตนเองและบิดาได้เคยร่วมบันทึกภาพในสมัยนั้น หลายภาพจะตั้งโชว์หน้าร้านเมื่อเปิดร้านเสมอ แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ได้สร้างความภูมิใจอันยิ่งใหญ่ให้พ่อและตนเอง ช่างเป็นผลงานที่ดีที่สุดที่เกิดจากฝีมือของตนเอง และไม่สามารถจะค้นหาภาพเก่าๆ เหล่านี้ได้จากที่ไหนอีก จะเก็บไว้สู่รุ่นต่อรุ่นต่อไป เพื่อได้เล่าเรื่องราวได้ว่าตนเองและครอบครัวเกิดในรัชกาลที่ 9 และได้เคยเข้าไปฉายพระรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมากี่ครั้งก็จะตื่นเต้นทุกครั้ง
นายตี นะเรศรัมย์ คือ ชายในภาพที่นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว เข้าเฝ้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อ 38 ปีที่แล้ว เผยยังคงร้องไห้ทุกครั้งเมื่อเอ่ยถึงพระองค์ นายตี นะเรศรัมย์ ชาวบ้านโคกขมิ้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ชายในภาพที่นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวเข้าเฝ้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2522 เมื่อครั้งเสด็จฯ ทอดพระเนตรแหล่งน้ำในพื้นที่หนองกุดใหญ่ อย่างไม่เป็นทางการ บอกว่าถือเป็นบุญของชีวิต โดยเล่าความปลื้มปีติในวันนั้นว่า เป็นวันที่ตนออกไปหาปลาที่หนองกุดใหญ่ แล้วพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมา นายทหารเรียกตนให้ขึ้นจากหนองน้ำ บอกว่าในหลวงเสด็จมา ตนก็ขึ้นมานั่งอยู่ที่กอหญ้า ใส่ผ้าขาวม้าผืนเดียว พระองค์เสด็จมานั่งข้างหน้าของตน รับสั่งถามเกี่ยวกับหนองกุดใหญ่อย่างละเอียด เพื่อทรงทราบที่มาของปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ตนบอกว่าหากมีการสร้างฝายน้ำล้นก็จะดี น้ำจะได้ระบายออก ซึ่งต่อมาจึงมีการสร้างฝายน้ำล้น และปัจจุบันบริเวณดังกล่าวมีการพัฒนาไปมาก มีการปลูกผักสวนครัวเต็มไปหมด ตนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณมาก รับสั่งว่าถ้าคนเราไม่มีน้ำก็อยู่ไม่ได้
ปัจจุบัน นายตี อายุ 68 ปี ย้ายไปอยู่ที่บ้านตาเมาะ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านภรรยาได้ประมาณ 1 ปี ดำเนินชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และสอนลูกหลานให้เป็นคนดี เมื่อทราบข่าวการเสร็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็รู้สึกตกใจและเสียใจมาก นึกถึงตอนที่เข้าเฝ้าฯ รับเสร็จทีไร น้ำตาก็ไหลออกมาตลอด.-สำนักข่าวไทย
